Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนด้วยกัน ดูเหมือนว่ามาตรการในการกันชาวต่างชาติจากพื้นที่เสี่ยงไม่ให้เข้ามาในประเทศของไทยจะยังอ่อนกว่าหลายชาติในอาเซียน โดยประเทศไทยยังไม่มีการประกาศแบนชาวต่างชาติจากประเทศใดเลย ในขณะที่มาเลเซียประกาศแบนชาวต่างชาติทุกชาติไม่ให้เข้าประเทศเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ส่วนประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ ก็มีมาตรการเข้มงวดกว่าไทยทั้งสิ้น

มาตรการหนึ่งที่สำคัญในการป้องกันการระบาดของโรค covid-19 ก็คือการป้องกันไม่ให้ชาวต่างชาติที่อาจติดเชื้อเดินทางเข้าสู่ประเทศ ประเทศไทยเองได้มีการประกาศให้ 4 ประเทศเหล่านี้ ได้แก่ จีน (รวมฮ่องกงและมาเก๊า) เกาหลีใต้ อิหร่าน และอิตาลี เป็นเขตโรคติดต่ออันตราย ชาวต่างชาติที่เดินทางมาจาก 4 ประเทศเหล่านี้ทุกคนจะต้องมีใบรับรองแพทย์อายุไม่เกิน 3 วัน ต้องมีประกันสุขภาพวงเงิน 100,000 ดอลลาร์ และยังต้องใช้แอปพลิเคชั่นที่ทางการไทยจัดทำขึ้นเพื่อให้สามารถติดตามตัวขณะอยู่ในประเทศไทยได้ด้วย นอกจากนั้นแล้ว ไม่ว่าจะตรวจพบว่ามีไข้หรือไม่ขณะเดินทางเข้ามา ยังต้องถูกบังคับให้กักตัวเองเป็นเวลา 14 วันด้วย

อย่างไรก็ตาม นอกจาก 4 ประเทศนี้แล้ว ชาวต่างชาติที่เดินทางมาจาก 11 ประเทศที่มีการระบาดต่อเนื่อง ได้แก่ ฝรั่งเศส สเปน สหรัฐฯ สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ญี่ปุ่น (บางเมือง) เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ สวีเดน อังกฤษ และเยอรมนี ยังต้องถูกกักตัวก่อน 14 วันด้วย ส่วนประเทศอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้เลยโดยไม่ต้องถูกบังคับกักตัว รวมถึงไม่ต้องมีใบรับรองแพทย์และทำประกันภัยแต่อย่างใด

สำหรับประเทศมาเลเซีย นายมูห์ยิดดิน ยัสซิน (Muhyiddin Yassin) นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย ได้ประกาศผ่านทางโทรทัศน์เมื่อวานนี้ (16 มี.ค.) ว่า ประเทศมาเลเซียจะทำการปิดตายประเทศเป็นเวลา 14 วัน เริ่มตั้งแต่วันพุธที่ 18 มี.ค.นี้ ไปจนถึงสิ้นเดือน ชาวต่างชาติไม่ว่าจากชาติใด จะไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศมาเลเซียได้ และชาวมาเลเซียเองก็จะไม่สามารถเดินทางออกไปนอกประเทศได้ในช่วงเวลานี้เช่นเดียวกัน

สำหรับประเทศสิงคโปร์ รัฐบาลสิงคโปร์ได้กำหนดกฎว่า ชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากประเทศจีน เกาหลีใต้ อิหร่าน อิตาลี เยอรมนี สเปน ฝรั่งเศส ในรอบ 14 วันที่ผ่านมา ห้ามเดินทางเข้าประเทศ รวมถึงห้ามแวะต่อเครื่อง (transit) ที่สนามบินชางงีของสิงคโปร์ด้วย ในขณะเดียวกัน ทั้งชาวต่างชาติและชาวสิงคโปร์เองที่เดินทางมาจากญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร สวิตเซอร์แลนด์ รวมถึงทุกประเทศในกลุ่มอาเซียน จะต้องถูกบังคับกักตัวอยู่ที่บ้าน 14 วันหลังเดินทางเข้าสิงคโปร์ด้วย

ด้านประเทศกัมพูชา มีเพียงการประกาศห้ามชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และสเปน เท่านั้น ไม่ให้เดินทางเข้าประเทศกัมพูชา โดยมีผลตั้งแต่วันนี้ (17 มี.ค.) และจะมีผลไปข้างหน้า 30 วัน สำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากประเทศอื่นๆ ไม่ได้มีการประกาศห้ามเข้าประเทศหรือต้องถูกกักตัวแต่อย่างใด

สำหรับประเทศเมียนมาร์ ซึ่งเป็นอีกประเทศที่มีพรมแดนติดกับประเทศไทย ได้ประกาศแบนชาวต่างชาติที่ในรอบ 14 วันที่ผ่านมามีประวัติการเดินทางไปมณฑลหูเป่ยของจีน และเมืองแทกูและเมืองคย็อกซังเหนือ ของเกาหลีใต้ ไม่ให้เข้าประเทศ สำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากพื้นที่อื่นของประเทศเกาหลีใต้สามารถเดินทางเข้าประเทศเมียนมาร์ได้ แต่ต้องกักตัวเองที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน นอกจากนี้ ทุกคนที่ในรอบ 14 วันที่ผ่านมามีประวัติเดินทางไปยังประเทศอิตาลี อิหร่าน ฝรั่งเศส สเปน หรือเยอรมนี จะต้องถูกกักตัวในโรงพยาบาลในเมียนมาร์เป็นเวลา 14 วันก่อนด้วย

ด้านประเทศเวียดนาม ชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากประเทศจีน เกาหลีใต้ และอิหร่าน รวมถึง transit เครื่องบินที่ 3 ประเทศข้างต้นในรอบ 14 วันที่ผ่านมา จะถูกแบนไม่ให้เข้าประเทศ ในขณะเดียวกันตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา ชาวต่างชาติที่เดินทางมาจาก 26 ประเทศในสหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร รวมถึงไอร์แลนด์เหนือ ก็ถูกห้ามไม่ให้เดินทางเข้าประเทศเวียดนามเช่นเดียวกัน นอกจากนั้น บุคคลทุกสัญชาติที่เดินทางมาจาก หรือแวะเปลี่ยนเที่ยวบินในประเทศสมาชิกอาเซียนทุกประเทศ เมื่อเดินทางมาถึงเวียดนามจะต้องถูกกักกันโรคเป็นเวลา 14 วัน โดยจะมีผลตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 18 มี.ค. นี้เป็นต้นไป

ที่มาข้อมูล
ไทย https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/index.php
มาเลเซีย https://asia.nikkei.com/…/Malaysia-to-enter-lockdown…
สิงคโปร์ https://www.gov.sg/…/covid-19-travel-restrictions-for…
กัมพูชา https://kh.usembassy.gov/covid-19-information/
เมียนมาร์ https://mm.usembassy.gov/covid-19-information/…
เวียดนาม https://vietnam.travel/…/information-travellers-novel…
https://www.facebook.com/…/a.16325…/2649958265269493/…

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า