Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ไล่เรียงปมร้อนวันประชุมครม. ที่มาแรงแซงทุกประเด็น คือเรื่องการขยายอายุสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว หลัง ‘อนุทิน’ นำรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย งัดข้อแสดงพลังค้านด้วยการลาประชุมยกทีม จนสุดท้าย ครม. ต้องถอยให้

จากกรณี 7 รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย นำโดย หัวหน้าพรรค นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, น.ส.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

พร้อมเพรียงกัน ลาประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคารที่ 8 ก.พ. 2565 ด้วยเหตุผลจาก ปมร้อน กระทรวงมหาดไทย ดันเรื่อง ‘ขยายอายุสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว’ เข้า ครม.

…แบบรวดเร็วฉับไว คล้ายตอกย้ำ มีสัญญาณ ใกล้ยุบสภา !!

(แฟ้มภาพ : พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม , พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. )

เนื่องจากวันนี้ กระทรวงมหาดไทย ได้เสนอให้ ครม. พิจารณาเห็นชอบ ร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว หรือ การขยายอายุสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อขยายสัญญาสัมปทานให้กับ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ในเครือบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ออกไปอีก 30 ปี เป็นสิ้นสุด ปี พ.ศ. 2602 (จากเดิมสิ้นสุดปี พ.ศ. 2572 หรือ อีก 7 ปี) ซึ่งเป็นเรียกได้ว่าเป็นการต่ออายุสัมปทานล่วงหน้า พร้อมๆ กับ ราคาค่าโดยสาร 65 บาทตลอดสาย

อย่างไรก็ตาม หลังประชุม ครม. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงว่า ครม.

“รับทราบแนวทางการแก้ปัญหาของร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย กลับไปทำคำชี้แจงเพิ่มเติม ในประเด็นของกระทรวงคมนาคม ครั้งที่ 10 เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2565 และนำเข้าสู่การประชุมพิจารณาของครม. โดยเร็ว”

(แฟ้มภาพ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม , อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข)

ก่อนวันประชุมครม. เพียงวันเดียว รมว.ศักดิ์สยาม ได้ส่งหนังสือส่งถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ตั้งข้อสังเกตคัดค้านการขยายอายุสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวระหว่าง กทม. และกลุ่ม BTS โดยมีรายละเอียดใจความสำคัญ ดังนี้

“กระทรวงคมนาคม ได้พิจารณาข้อมูลเพิ่มเติมของกทม. แล้วขอยืนยันความเห็นเดิมว่า ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของ กทม. เนื่องจากข้อมูล ที่กทม. จัดทำเพิ่มเติมนั้น ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในข้อเท็จจริง ที่ทำให้การวิเคราะห์ของกระทรวงคมนามคมแตกต่างไปจากเดิม โดยเฉพาะในประเด็นของการคำนวณอัตราค่าโดยสาร การรองรับระบบตั๋วร่วม และความชัดเจนของประเด็นข้อกฎหมาย”

“นอกจากนี้ ปัจจุบันการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ยังคงเป็นหน่วยงานเจ้าของกรรมสิทธิ์ในสิ่งก่อสร้างและที่ดินตลอดแนวโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 2 ช่วง อันเป็นสาระสำคัญที่ไม่อาจเห็นด้วย ต่อแนวทางการดำเนินการตามข้อเสนอของกระทรวงมหาดไทย นอกเหนือจากประเด็นอื่นๆ ที่กระทรวงคมนาคมได้เคยนำเสนอ และแจ้งยืนยันในครั้งนี้”

“กระทรวงคมนาคม ขอให้ข้อเท็จจริงเพิ่มเติม กรณีที่ กทม. รายงานว่า การโอนกรรมสิทธิ์ยังไม่สมบูรณ์ เนื่องจาก รฟม. ยังไม่สรุปรายละเอียดด้านการเงินช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ทำให้ไม่สามารถรับโอนโครงการได้ กระทรวงคมนาคม ขอรายงานข้อเท็จจริงว่า กทม. รฟม. สำนักงบประมาณ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ และกระทรวงคมนาคม ได้ประชุมเพื่อหารือสรุปรายละเอียดค่าใช้จ่ายโครงการ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ร่วมกันเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2563 แต่ยังมีประเด็นเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการตามเงื่อนไขการอนุญาตให้เข้าพื้นที่กรณีการติดตั้งสะพานเหล็ก แยกหทัยราษฎร์ และ แยกพุทธมณฑล สาย 2”

“ซึ่งรอคำยืนยันจาก กทม. เนื่องจาก การพิจารณากรอบวงเงินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต จะได้ข้อสรุป มีความจำเป็นต้องทราบความชัดเจนของ แนวทางการติดตั้งสะพานเหล็กทั้ง 2 แห่ง เพื่อประกอบการจัดทำรายละเอียดค่าใช้จ่ายของโครงการ ซึ่งกระทรวงคมนาคม ได้มีหนังสือเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2563 และวันที่ 2 พ.ย. 2564 รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 6-7 ขอทราบผลการพิจารณาของกทม. และปัจจุบัน กทม. ยังไม่ได้แจ้งผลการพิจารณาให้กระทรวงคมนาคมทราบ”

นอกจาก กระทรวงคมนาคม พรรคภูมิใจไทย ยังมี พรรคก้าวไกล รวมทั้งภาคประชาชนอย่าง สภาองค์กรของผู้บริโภค ที่ไม่เห็นด้วยกับการขยายอายุสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้เจ้าเดิมล่วงหน้า โดยเฉพาะประเด็นเรื่องค่าโดยสารรถไฟฟ้าตลอดสายที่ 65 บาท ที่ทุกฝ่ายมองว่า เป็นราคาที่แพงเกินไปต่อผู้ใช้บริการ โดย สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ยังกล่าวในไลฟ์ของ The Reporters วันนี้ว่า  เรื่องนี้ควรรอ ผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ เข้ามาดำเนินการ แทนที่จะเร่งรีบ

(แฟ้มภาพ : นิพนธ์ บุญญามณี)

ฟาก กระทรวงมหาดไทย นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์กับ workpointTODAY ว่า ยังไม่ได้กำหนดเวลา แต่จะให้เร็วที่สุด เพราะกระทรวงคมนาคมเพิ่งมีหนังสือลงวันที่ 7 ก.พ. มีประเด็น 2-3 ประเด็น ที่ต้องไปตอบแล้วจึงจะเสนอกลับมาใหม่ เบื้องต้นสัปดาห์หน้าไม่ทัน เพราะต้องไปดูหลายเรื่อง รวมทั้งเรื่องร้องเรียนว่ามีหรือไม่ อย่างไร คิดว่าจะพยายามหาข้อมูลให้รอบด้านที่สุด เพราะว่าก็ตอบไปหลายประเด็นแล้ว แต่เมื่อยังสงสัยก็ต้องหาข้อมูลมาชี้แจงต่อครม. ซึ่งคาดว่าจะนำกลับมาเสนอครม.อีกครั้งในวันอังคารที่ 22 ก.พ. นี้

นายนิพนธ์ กล่าวด้วยว่า ทางกระทรวงมหาดไทยไม่มีอะไรหนักใจ เพราะถ้ามีอะไรผู้ที่ต้องตอบให้ได้ คือ 1. กทม. ในฐานะเจ้าของเรื่อง 2. คณะกรรมการกฤษฎีกา ในฐานะที่ปรึกษาของครม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครม. ตัดสินใจ เพราะข้อมูลต้องครบถ้วน

จับตากันต่อไป สำหรับประเด็นร้อนนี้ เพราะไม่เพียงเป็นเรื่องที่เห็นไม่ตรงกันชนิดค้านสุดตัว ของ ‘ภูมิใจไทย’ ที่มี ส.ส. มากเป็นอันดับ 2 ของซีกรัฐบาล หากแต่เรื่อง ‘รถไฟฟ้า’ กระทบกับประชาชนโดยตรง ยิ่งยุคที่ค่าครองชีพสวนทางกับรายได้ สุดท้ายแล้วใครจะทำ และรักษาผลประโยชน์ เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า