หากกล่าวถึงตู้คอนเทนเนอร์ เป็นสิ่งที่หนึ่งที่ถูกนำมาใช้ประกอบฉากเอ็มวีหรือมิวสิควีดีโอเพลงอย่างมากมาย จนกลายเป็นเทรนด์อย่างหนึ่ง วันนี้(25 พ.ย. 2563) คอลัมน์ MUFFINS ได้นำเอ็มวีที่มีตู้คอนเทนเนอร์ประกอบฉากในเอ็มวีมาแนะนำให้ได้รู้จักกันค่ะ
เอ็มวีแรกที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ you are everything to me หรือภาษาจีน 你最最最重要 เพลงธีมรายการ chuang 2020 (Produce Capm 2020) รายการวาไรตี้สุดยิ่งใหญ่แห่งปีของเทนเซ็นต์ วีดีโอ บริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่ของจีน ที่มีสาวไทยอย่างเนเน่ พรนับพัน พรเพ็ญพิพัฒน์ เข้าร่วมแข่งขันและเป็นผู้เข้าแข่งที่มีโอกาสได้เดบิวท์ 1 ใน 7 ของวงเกิร์ลกรุ๊ปหน้าใหม่ของจีน ที่ปัจจุบันชื่อว่า BonBonGirls 303
สำหรับเพลง you are everything to me ประกอบไปด้วยความสดใสของสาวๆ ทั้ง 101 คน ซึ่งเป็นผู้เข้าแข่งขันในรายการที่มาบอกเล่าความมุ่งมันและตั้งใจว่าพวกเธอจะทำความฝันให้ได้ผ่านเนื้อเพลง ขณะที่เอ็มวีก็ไม่แพ้กันเต็มไปด้วยสีชมพูสดใส รอยยิ้ม และภาพความฝันของสาวๆทั้ง 101 คน ซึ่งไฮไลท์ของเอ็มวีอยู่ที่สาวๆ ทั้ง 101 คนได้ออกมาเต้นพร้อมกัน โดยมีฉากตู้คอนเทนเนอร์สีชมพูเรียงรายกันอยู่บริเวณด้านหลัง เป็นมุมกว้างที่สามารถเห็นผู้เข้าแข่งขันได้เกือบทั้งกว่า 100 คน นอกจากนี้ยังมีการถ่ายจากมุมบนที่สาวๆ จัดแถวเป็นรูปโลโก้ของรายการอีกด้วย บอกได้เลยว่าหากใครได้ชมเอ็มวีนี้ต้องตกหลุมรักสาวๆ ทั้ง 101 คนอย่างแน่นอน
มาต่อกันที่เอ็มวีที่ 2 คือ Hurt Locker หรือชื่อภาษาเกาหลีว่า 다쳐 (ทา–ชยอ) ของวง 9MUSES เกิร์ลกรุ๊ปจากเกาหลีใต้ สังกัดค่ายสตาร์เอมไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งเพลงนี้ถูกปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2015 ซึ่งขณะนั้นมีสมาชิกทั้งหมด 8 คนด้วยกัน คยองรี, ชองอา, ฮเยมี, กึมโจ, มินฮา, อีริน, โซจิน และฮยอนอา ปัจจุบันวง 9MUSES ได้ยุติกิจกรรมวงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ซึ่งเอ็มวีเพลงนี้เต็มไปด้วยสีสันคัลเลอร์ฟูลของตู้คอนเทนเนอร์หลากหลายสีที่เหมาะกับช่วงฤดูร้อน บอกได้เลยว่าทั้งเอ็มวี Hurt Locker ใช้ฉากตู้คอนเทนเนอร์ในการถ่ายทำแทบจะทั้งหมด ทั้งฉาก ฉากขับรถสปอร์ตวนรอบตู้คอนเทนเนอร์ ฉากเต้นบริเวณด้านหน้าของตู้คอนเทนเนอร์ รวมไปถึงฉากเต้นในมุมสูงที่สาวๆ ต้องปีนตู้ขึ้นไปถ่ายทำกันเลยทีเดียว หรือแม้กระทั่งฉากเดี่ยวของสาวๆ 9MUSES ก็ได้ใช้พื้นที่ภายในและด้านหน้าของตู้คอนเทนเนอร์ถ่ายทำด้วยเช่นกัน
สำหรับเพลง Hurt Locker เป็นเพลงแรกของสาวๆ 9MUSES ที่ได้โปรดิวเซอร์มือดีอย่าง Erik Lidbom ที่มีผลงานอย่างเพลง Catch Me If You Can ของสาวๆวง Girls’ Generation และเพลง Hurricane Venus สาว BoA โดยเพลงนี้เล่าถึงเรื่องราวความรักครั้งเก่าที่ย้อนกลับมาขอให้คืนดี ทำให้พวกเธอลังเลและสับสนแต่ด้วยความเจ็บปวดที่ทิ้งไว้ ทำให้พวกเธอล็อคประตูความรักบานนี้และถูกปิดไว้ ไม่เปิดโอกาสให้ความรักครั้งเก่ากลับมาทำร้ายจิตใจได้อีก
ทั้งนี้ เอ็มวีที่ทางคอลัมน์ MUFFINS เล่ามาทั้ง 2 เอ็มวี เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเท่านั้น ซึ่งคิดว่ายังคงมีอีกหลายหลายเอ็มวีที่ใช้เทรนด์การถ่ายทำกับฉากตู้คอนเทนเนอร์อีกมากมาย
