Converse x KoenDanai Exclusive Talk ชวนทุกคนเปิดใจกับแคมเปญ Proud To Be

Converse Pride ปีนี้ชวนทุกคนเปิดใจใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองเป็นกับแคมเปญล่าสุด Converse x KoenDanai Exclusive Talk session on “Proud To Be” งานทอล์กสำหรับทุกความแตกต่างมามาพบปะ พูดคุยกัน

Converse ยอมรับในความหลากหลาย พร้อมสนับสนุนในความเป็นปัจเจกบุคคลเสมอ ซึ่งใน Pride Collection 2023 ล่าสุดปีนี้ Converse ได้ออกแบบความหลากหลายในรูปแบบที่แตกต่างกัน แต่ยังอยู่รวมกันได้ Converse เชื่อว่าไม่ว่ารูปแบบไหน ทุกคนก็สามารถแสดงความเป็นตัวตนได้อย่างเต็มที่

ในปีนี้นอกจากการเข้าร่วม Bangkok Pride Parade 2023  กับคุณเขื่อน ภัทรดนัย เสตสุวรรณ นักร้อง นักจิตวิทยา ผู้สร้างความหมายของพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน เพื่อให้ทุกคนได้แสดงตัวตนที่แท้จริงแล้ว ทาง Converse ได้ต่อยอดด้วยการจัด Exclusive Talk Session เพื่อให้เกิดพื้นที่สำหรับทุกคนได้แชร์ตัวตนอย่างอิสระ พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้กันและกัน กว่าจะมีวันนี้ กว่าจะยอมรับความแตกต่าง เราจำเป็นต้องมีวัคซีนเพื่อสร้างความภูมิใจในตัวเอง

ขอเริ่มต้นกับน้อง ๆ สมาชิก Converse All Stars ซึ่งเรื่องราวแต่ละคนมาจากตัวตนภายในจริงๆ ที่อยากจะบอกเล่าให้เพื่อนๆ ได้ฟังกัน

1. คุณเปา @today.is.Christmassss Stylist เรื่องที่ภูมิใจ และพยายามทำให้ดีขึ้นทุกวัน คือ การตัดสินใจของตัวเอง หมายถึงการตัดสินใจในทุกๆ เรื่อง ทุกๆ การกระทำ ซึ่งเรื่องการตัดสินใจที่ชัดที่สุด คือเรื่องเพศ เรื่องการแสดงออก บางโมเม้นต์อยากมีความรู้สึกเป็นผู้หญิง บางอารมณ์ก็อยากรู้สึกเป็นผู้ชาย เรายอมรับการตัดสินใจได้มากขึ้น แม้บางครั้งมันอาจจะไม่ได้เป็นไปตามสิ่งที่คนอื่นต้องการ แต่นี่คือสิ่งที่เราเลือกเอง ถ้ามัวแต่กลัว เราจะไม่กล้าตัดสินใจทำอะไรเลย วันนี้เปาสามารถพูดได้ว่าภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองได้ตัดสินใจ โดยเฉพาะเรื่องเพศที่เก็บมาตลอด จนถึงวันที่กล้ายอมรับ และแสดงออกถึงตัวตนภายในที่เป็น Proud to be me
2. คุณแบงค์ @banklekborntowin Model เมื่อก่อนมักจะโดนคอมเม้นต์ หุ่นแบบนี้จะใส่เสื้อผ้าไม่สวย ส่วนตัวเป็นคนชอบใส่ Oversized ก็ยิ่งดูผอมไปใหญ่ ไหนจะรับงานถ่ายแบบ พอ Casting ไม่ผ่านก็มักจะโทษหุ่นตัวเอง หุ่นแบบเราไม่ได้เป็นแบบที่คนทั่วไปชอบ ทำให้สูญเสียความมั่นใจในส่วนนี้ เมื่อทบทวนดีๆ มันอยู่ที่ตัวเราเอง ถ้าเรามั่นใจ เราจะมี Attitude ที่ดีกับตัวเอง แค่นี้ทุกอย่างก็จบ ทุกวันนี้ เราก็หุ่นแบบเดิม แต่งตัวแบบเดิม ถ้าเรามั่นใจเราภูมิใจ เราก็จะชอบเวลาเรามองตัวเอง ไม่ว่าใครจะไซส์ไหน ถ้าเราเริ่มจากฟังเสียงตัวเองให้มาก เราจะเริ่มเข้าใจตัวตนของเรา เริ่มชอบเวลาเรามองตัวเอง และท้ายที่สุด เราจะภูมิใจกับตัวเองมากขึ้นในแต่ละวัน Proud to be my real size.
3. คุณเบสท์ @bestshito Designer ก่อนที่จะหลงรักแฟชั่นในแบบของตัวเอง เบสท์เคยโดย Fashion Shaming เวลาได้ยินคำนี้ จะรู้สึกไม่โอเค ยกตัวอย่างเช่น ทำไมการใส่สีดำ คือการไปงานศพ การใส่เสื้อลายสก็อต คือคนตัดอ้อย ใครเป็นคนกำหนดสิ่งเหล่านี้ การใส่ชุดซ้ำ มันคือความชอบ ซึ่งพอเจอแบบนี้ เราก็ไม่ได้เปลี่ยนตัวเองนะ ยังคงเป็นตัวเอง สไตล์เดิม ทำแบบเดิม เพื่อยืนยันในสิ่งที่ตัวเองเป็น ซึ่งเบสท์ชอบตัวเองในทุกๆ วัน และเชื่อว่าไม่ว่าจะแต่งแบบไหน ขอให้เรามั่นใจ และมีความสุขในสิ่งที่ตัวเองเป็นก็เพียงพอแล้ว Proud to be me
4. คุณจีซาเบล @g.sabale Model ชอบที่จะพูด ภูมิใจในความเป็นมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีของตัวเอง ทุกอย่างเริ่มจากคำพูด ไม่ได้หมายถึงพูดเพราะ เรียบร้อย แต่หมายถึง คำพูดที่เข้าใจคนที่อยู่ตรงหน้า ถ้าเป็นคนไม่รู้จักกัน เบลจะเริ่มจากฟังก่อนเสมอ ไม่ตัดสินคนจากภายนอก วันนี้ใครจะบอกว่าภายนอกเราอาจจะดูเหวี่ยง แต่เราภูมิใจที่เป็นคนมีมนุษย์สัมพันธ์เปิดกว้าง พร้อมรับฟัง และสามารถสนิทกันได้ ภายในคำพูดไม่กี่คำ Proud to be heartwarming
5. คุณปอง @antonepong Illustrator เราชอบวาดรูปแต่เด็ก ชอบโครงสร้างกล้ามเนื้อ ชอบ Surreal anatomy ชอบรูปร่าง และสรีระของมนุษย์ หลายคนมองเราแปลก เรามักใช้งานศิลปะเล่าเรื่องราว จนกลายเป็นความหลงใหลในการวาดภาพ ได้ปลดปล่อยตัวเอง เหมือน Self-expressed ผ่านงานศิลปะ เมื่อย้อนกลับไปดูงานแต่ละชิ้น เรารู้สึกภูมิใจในทุกผลงานที่แสดงออก เพราะมันบ่งบอกถึงตัวตนจริง ๆ ในแต่ละช่วงวัย Proud to be my passion

ภาพการ์ตูนที่ถูกจัดแสดงอยู่ในงาน คือผลงานของคุณปอง จากโจทย์ที่ได้รับ Proud To Be ปองให้ความหมายเป็นภาพเหล่าฮีโร่ ภายใต้แนวคิด Superhero Proud To Be… ซึ่งคุณปองเชื่อว่า ทุกคนมีพลังวิเศษภายใน เปรียบเหมือนมีอาวุธเฉพาะตัว  พร้อมส่งแรงบันดาลใจดีๆ ไปยังทุกคน

• ภาพพี่เขื่อน กว่าจะมีวันนี้ พี่เขื่อนมักจะบอกว่า Self-Love เป็นเรื่องสำคัญ อยากให้ทุกคนกลับมารักตัวเอง ซึ่งในภาพจะมีสัญลักษณ์หัวใจ หมายถึงการโอบกอดตัวเอง และสามารถส่งพลังบวกไปยังคนรอบข้างได้
• ภาพเบสท์ เป็นความสวยงาม เพียงแค่เรามั่นใจในแบบของเรา ก็เปรียบเหมือนผีเสื้อที่ติดปีกโบยบิน ใช้ชีวิตอย่างอิสระ
• ภาพของจีซาเบล ในภาพจะเห็นเป็นดอกกุหลาบ ซึ่งคนภายนอกเห็นเบลครั้งแรกจะคิดว่าแรง น่ากลัว ไม่เป็นมิตร เหมือนกุหลาบมีหนามที่ต้องระวัง แต่จริงๆ แล้วเมื่อได้รู้จัก จะเห็นถึงตัวตนภายใน เบลชอบสร้างเสียงหัวเราะ สวยงามน่าชม
• ภาพแบงค์ มีการวาดส้นรองเท้าให้หนาเป็นพิเศษ เชื่อว่าไม่ว่าเราจะเป็นคนไซส์ไหน เราก็สามารถภูมิใจในแบบของเราเองได้ มันคือ Real-sized beauty ในแบบที่ทุกคนภูมิใจได้
• ภาพเปา ในมือถือคฑาสายฟ้า ชี้ขาด เด็ดเดี่ยวในการตัดสินใจ ถ้าเราได้ตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ยอมรับผลนั้น และเดินไปข้างหน้าอย่างภูมิใจกับสิ่งที่ได้ตัดสินใจ
• ภาพปอง หากสังเกตที่แขนเหมือนมีกลไกติดอยู่ ทุกคนสามารถแสดงออกได้หลากหลายรูปแบบ การวาดภาพเป็นวิธีการแสดงออกที่ง่ายๆ อย่างหนึ่ง และทุกคนทำได้เช่นกัน

แขกรับเชิญคนพิเศษอีกคนคือ คุณเขื่อน ภัทรดนัย เสตสุวรรณ ผู้ซึ่งกว่าจะมีวันนี้ ผ่านอะไรมาเยอะ ได้ร่วมงานกับ Converse Pride เป็นปีที่ 3 ซึ่งทุกปี Converse จะมีโจทย์ท้าทาย และเปิดมุมมองสำหรับคนรุ่นใหม่

ล่าสุดปีนี้ กับแคมเปญ Proud To Be เป็นปีที่เขื่อนอยากแชร์ประสบการณ์ของตัวเองเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคน แต่ละปีเขื่อนมักจะตั้งเป้าหมายในการใช้ชีวิต อย่างปีที่แล้ว เขื่อนให้ตัวเองได้แสดงความเป็น Inner Child ให้เราได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระ ออกจาก Safe zone และสนุกกับเรื่องราวใหม่ๆ ในทุกวัน สำหรับปีนี้เขื่อนอยากให้ความหมายกับชีวิตมากขึ้น กล้าทำอะไรที่ไม่กล้าทำมากขึ้น เริ่มจากการย้อนกลับไปมอง Step แรกก่อนที่เราจะสามารถรัก และภูมิใจตัวเองในวันนี้ เราต้องกล้าที่จะอยู่กับเรื่องหนักๆ กล้าที่จะอยู่กับคนที่ไม่เข้าใจ รวมถึงกล้าที่จะโดนเกลียด ทำความเข้าใจ Negative Feedback ที่เกิดขึ้นคืออะไร หรือแม้กระทั่ง Positive Feedback คืออะไร เมื่อเราก้าวพ้นมาได้ เราจะเริ่มเข้าใจ เริ่มที่จะยอมรับตัวเอง เขื่อนอยากจะบอกว่า มนุษย์ คือกระจกที่สะท้อนซึ่งกันและกัน และแน่นอน คนที่ไม่เข้าใจเรายังมีอยู่ตลอดเวลา เราต้องรู้จักตัวเองว่าเราคือใคร เราจะสามารถยอมรับ และ Proud to be myself

Self-Love เหมือนเป็นผลลัพธ์ในวันที่เราภูมิใจในตัวเอง เราจะสามารถโอบกอดตัวเองได้อย่างเต็มที่ และพร้อมที่จะส่งพลังบวกนี้ไปยังคนรอบข้าง ร่วมกันสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับกันและกัน ซึ่งมันทำให้ชีวิตเรามีความหมาย แตกต่าง แต่สวยงามได้ในแบบของตัวเองได้

สำหรับคอลเลคชั่น Proud to Be แต่แต่ละแบบก็มีความโดดเด่นด้วยตัวของมันเอง ด้วยความภาคภูมิใจที่ออกแบบโดยพนักงานและพันธมิตรของ LGBTQIA+ ที่ Converse แบรนด์นี้ยังดำเนินการตามข้อเสนอแนะจากชุมชนเพื่อเสนอตัวเลือก และขนาดที่หลากหลายยิ่งขึ้น

คอลเลคชันนี้ประกอบด้วย Run Star Legacy CX, Chuck 70 De Luxe Heel, Chuck 70 Plus, Chuck 70, และ Chuck Taylor All Star รวมถึงเสื้อยืดหลายลาย ซิลูเอตต์แต่ละชิ้นได้รับการประดับประดาด้วยการตกแต่งในแบบของตัวเอง เช่น เชือกรองเท้า Pride ที่ถักทอผ่านรุ่น Run Star Legacy CX, พื้นรองเท้าชั้นนอกสีรุ้งในรุ่น Chuck 70Plus หรืออัปเปอร์แบบหนาแวววาวบน Chuck 70 De Luxe Heel ที่เพิ่งเปิดตัว

คอลเลกชั่นวางจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่ร้านคอนเวิร์สสาขา Siam Center, เมกาบางนา, เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลลาดพร้าว, เซ็นทรัลเฟสติวัลภูเก็ต, เซ็นทรัลเฟสติวัลเชียงใหม่, ร้าน Carnival, Atmos, Siwilai

และออนไลน์ที่ Converse LazMall https://bit.ly/3ONdqPX

เกี่ยวกับคอลเลกชั่นเพิ่มเติม https://www.converse.co.th/pride.html

เกี่ยวกับแคมเปญเพิ่มเติม https://www.converse.co.th/blog/post/Converse-Pride-Pround-to-Be