ไทม์ไลน์ จับน้องอ้อม วัย 15 ปี ทำกระทงละเมิดลิขสิทธิ์ คดีส่อพลิก

ครบ 7 วัน คดีจับกระทงละเมิดลิขสิทธิ์ เกิดอะไรขึ้นบ้าง

1 พ.ย.

น้องอ้อม ชาว จ.นครราชสีมา วัย 15 ปี ซึ่งทำกระทงขายทางเฟซบุ๊กเพื่อเป็นรายได้พิเศษเป็นค่าเล่าเรียน ได้รับการติดต่อทำผ่านเฟซบุ๊กจากบุคคล 3-4 คน ให้กระทงการ์ตูนเจาะจงลาย ริลัคคุมะ,กาฟิวส์ และอื่นๆ น้องอ้อมลงมือทำตั้งแต่ 08.00-01.30 น. ของอีกวัน

3 พ.ย.

น้องอ้อมนำกระทงไปส่งที่ประตูชุมพล 30 ใบ คนสั่งที่เป็นผู้หญิงนำเงินมาให้ 500 บาทแล้วเดินจากไป มีคน 5-6 มารุมจับ มีชายชื่อ “นัน” และตำรวจรวมอยู่ด้วย น้องอ้อมถูกพาไปที่ สภ.เมืองนครราชสีมา มีการเรียกค่าเสียหาย 50,000 บาท ทางครอบครัวมาเจรจาและยอมจ่าย 5,000 บาท

4 พ.ย.

หลังคดีน้องอ้อม เป็นข่าว ผู้ถูกจับลิขสิทธิ์อีกหลายรายแสดงตัว พบคนตามตำรวจมาจับเป็นคนเดียวกันชื่อ “นัน” รวมทั้งกรณีที่ร้อยเอ็ด ที่หญิงสาววัย 24 ปีและน้องสาววัย 16 ปี ถูกว่าจ้างให้ทำกระทงแล้วถูกจับเช่นเดียวกัน ทั้งคู่ไม่ยอมจ่ายเงินและอยู่ในห้องขังโรงพัก 1 คืน

5 พ.ย.

บริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) ออกแถลงการณ์ 2 ครั้ง ในเวลา 13.00 น. และ 15.00 น. ยืนยันเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์จากญี่ปุ่น ไม่ได้มอบหมายให้ใครไปจับลิขสิทธิ์

.
6 พ.ย.

– นายประจักษ์ โพธิผล แถลงข่าวระบุรับมอบอำนาจ บ.เวอร์ริเช็ค ให้ปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์จากญี่ปุ่นอย่างถูกต้อง ส่วนงานที่ตนทำอยู่คือ การปราบปราม คนละส่วนกับ บ.ที.เอ.ซี. ที่เป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ ส่วนความสัมพันธ์กับนายอนันต์ กิ่งเพชร ทำงานคนละบริษัท แต่รู้จักกันได้ส่งข้อมูลการละเมิดลิขสิทธิ์ให้

– ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 3 ยืนยันอีกครั้ง ไม่มีนโยบายเรียกเงินจากการจับลิขสิทธิ์

– ผู้เสียหายกว่า 20 รายแจ้งความที่ สภ.เมืองนครราชสีมา พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.ลงมาดูคดีเอง

7 พ.ย.

– เพจหมายจับกับบรรจง รายงานว่า นายภควรรษก์ ศรสำราญ ผู้ได้รับมอบอำนาจของบริษัทเวอริเซ็ค จำกัด และเป็นผู้ให้อำนาจนายประจักษ์ โพธิผล เป็นผู้ดูแลปราบปรามเรื่องลิขสิทธิ์ ระบุกรณีการล่อซื้อที่ จ.นครราชสีมา ตามที่ปรากฎในข่าวนั้น “ไม่มีการรายงานมาให้ทางต้นสังกัดทราบ”

– ริชาร์ด รอนนี่ รอส กรรมการผู้จัดการ บ.เวอริเซ็ค ประเทศไทย เปิดเผยกับรอง ผบ.ตร.ว่า”ไม่เคยมีการรายงานการล่อซื้อเข้ามา” และเป็นการล่อซื้อที่ผิดวัตถุประสงค์ของบริษัท

– พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ระบุกลุ่มตัวแทนบริษัทลิขสิทธิ์ซึ่งมีพฤติกรรมเข้าข่ายล่อซื้อจับกุม เข้าข่ายความผิดฐานกรรโชกทรัพย์ และเตรียมออกหมายจับ 3 ตัวแทนลิขสิทธิ์ มารับทราบข้อกล่าวหา และให้ตั้งกรรมการสอบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องรู้เห็นเป็นใจด้วยหรือไม่