นายกฯ จี้ภาครัฐเร่งปรับปรุงการประเมินความโปร่งใส

นายกฯ เข้ม เร่งส่วนราชการปรับปรุงการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ โอดไทยคดีเยอะเพราะใครจะฟ้องก็ได้ ยันไม่นิ่งนอนใจคดี ‘บอส’ แจงคืบหน้า เหลือแค่ได้ตัวกลับมา

วันที่ 9 ก.พ. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ขอชี้แจงเรื่องดัชนีการรับรู้การทุจริต (ซีพีไอ) ของประเทศไทย ซึ่งตนได้ให้ประชุมร่วมกันในส่วนของราชการและภาคประชาชน กำหนดมาตรการให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ พนักงาน ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวก โดยมี กพร.เป็นเจ้าภาพ ปรับปรุงการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของ หน่วยงานภาครัฐ (ITA) เพื่อสะท้อนคะแนนของ ITA ให้มากขึ้น และหน่วยงานของรัฐต้องเร่งประชาสัมพันธ์เชิงรุกถึงผลงานในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น โดยเฉพาะคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เช่น คดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ซึ่งเท่าที่รับรายงานนั้น มีการฟ้องร้องคดีใหม่ไปแล้ว และออกหมายแดงไปแล้ว ขอให้ติดตามข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีการชี้แจงไปบ้างแล้ว และมีความก้าวหน้า การประสานงานกับต่างประเทศก็ครบถ้วนแล้ว เหลือเพียงได้ตัวกลับมาเท่านั้น ไม่ใช่ว่านิ่งนอนใจ ไม่ได้เก็บเรื่องไว้ในกระเป๋า ทุกเรื่องนายกฯ เอามาดำเนินการให้หมด

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สำหรับจำนวนคดีการทุจริตคอรัปชั่นที่อาจมีจำนวนมากขึ้นนั้น ขออย่ามองด้านเดียว เพราะตามกฎหมายไทยใครก็ฟ้องร้องได้ แต่ทั้งหมดเป็นไปตามขั้นตอนการพิจารณาของศาลที่เกี่ยวข้อง ถูกต้องหรือไม่ก็ต้องตรวจสอบกันไป ทุกอย่างต้องมีหลักฐานตามกระบวนการยุติธรรม ตนไม่อยากมีปัญหา หลายคนไม่เข้าใจก็ออกมาพูดว่า นายกฯ ไม่ทำอะไรเลย ถ้าไม่ทำจะมีคดีหรือ และจะมีการหนีคดีหรือเปล่า วันนี้ทุกคนก็ทราบกันดีอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีที่ชาวประมงร้องเรียนขอวันทำการประมงเพิ่มเติมนั้น ได้สั่งการให้คณะกรรมการพิจารณาตามความเหมาะสม จำเป็นต้องดูแล เนื่องจากอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิค-19 ซึ่งคณะกรรมการได้พิจารณาไปแล้ว เป็นเรื่องที่เรียนเพื่อทราบ ยืนยันว่า ทุกอย่างต้องทำตามกฎเกณฑ์ของไอยูยู