SHARE

คัดลอกแล้ว

กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ไม่ได้แพร่ผ่านทางอากาศ แนะ หากไอ จาม ควรใช้ผ้า หรือ ทิชชู ป้องกัน แต่หากไม่มีให้ใช้ต้นแขนป้องปิดแทน ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังอยู่ที่ 32 ราย เผยกรมควบคุมโรคได้นำเลือดของผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่หายดีแล้ว มาปั่นน้ำเหลืองเป็นสารแอนติบอดี รักษาผู้ป่วยติดเชื้อใหม่ อยู่ในระหว่างรอผลการรักษา

วันนี้ (20 ก.พ.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุข โดย นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน สาธารณสุขนิเทศ เขตสุขภาพที่ 10 รายงานสถานการณ์การระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในประเทศไทย จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโรนาในไทยยังคงเดิมสะสม 32  ราย รักษาอยู่ที่โรงพยาบาล 22 ราย ให้กลับบ้านได้ 10  ราย มีผู้ป่วยอาการเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค 689 ราย ในจำนวนนี้อาการดีขึ้นออกจากโรงพยาบาล 334  ราย

สถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาโดยรวมในไทยอยู่ในสภาวะคงที่ ไม่เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับสถานการณ์ในสาธารณจีนที่เริ่มคงที่ และเช่นเดียวกับสถานการณ์ในหลายประเทศที่ตัวเลขผู้ป่วยจากประเทศต้นทางลดลง ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อที่แต่ละประเทศพบเพิ่มไม่มาก ทางกระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่า ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส 32 ราย เป็นชาวจีน 23  คน เป็นคนไทย 9 คน ซึ่งมีเพียง 3 คนไทยที่ติดเชื้อภายในประเทศ โดยทั้งหมดทำงานใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยวชาวจีน

สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง 2 คน ขณะนี้อาการคงที่ 1 คน ส่วนอีก 1 คนที่เป็นชาวจีนรักษาตัวที่รพ.ราชวิถี พรุ่งนี้จะออกจากห้องคัดแยกโรค ส่วนคนไทยที่เดินทางมาจากอู่ฮั่น 138 ราย ที่มีคนไทยติดเชื้อ 1 รายยังอยู่ในห้องแยกโรค อาการดีขึ้น ส่วนเพื่อนร่วมห้องกับผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส ขณะนี้เฝ้าระวัง

รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค

รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงและเป็นความคลาดเคลื่อนของการนำเสนอข้อมูล การติดเชื้อต้องสัมผัสกับสารคัดหลั่ง ซึ่งเป็นละอองฝอยขนาดใหญ่จากการไอ จาม ระยะใกล้ชิดไม่เกิน 1 เมตร โดยระบุว่า การแพร่เชื้อทางอากาศไม่ได้ติดกันได้ง่าย โดยที่ผ่านมาทางกระทรวงสาธารณสุขได้เก็บตัวอย่างคนแวดล้อมผู้ป่วยไม่พบการติดเชื้อนั้นแสดงว่าการติดเชื้อจะเกิดขึ้นกับคนที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยในระยะเวลาหนึ่ง หรือการพูดจาลักษณะใกล้ชิดจนทำให้เชื้อที่ติดไปกับน้ำลายที่เป็นละอองฝอยขนาดใหญ่ หรือเรียกว่า Droplets  แต่การพูดคุยระยะที่น้ำลายละอองฝอยขนาดเล็กกว่า 5 ไมครอน เชื้อไวรัสโคโรนาจะแพร่เชื้อไม่ถึง

ส่วนกรณีที่ผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุข โพสต์เปิดรับบริจาคเลือดผู้ที่หายป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนานั้น เป็นการนำเลือดของผู้ที่หายจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา มาปั่นเอาน้ำเหลืองที่มีภูมิคุ้มกันหรือสารแอนติบอดีไปรักษาผู้ติดเชื้อไวรัส​ เนื่องจากผู้ป่วยที่หายขาดแล้วจะมีภูมิคุ้มกันในระดับหนึ่ง โดยขณะนี้ได้ทดลองรักษากับผู้ป่วยแล้ว 2 ราย โดยอยู่ในระหว่างรอผลการรักษา

สำหรับปัญหาหน้ากากอนามัยที่ไม่เพียงพอ ทางกระทรวงสาธารณสุขได้สำรวจความต้องการใช้ในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขกว่า 1,000 แห่ง ซึ่งได้รับรายงานว่ายังมีหน้ากากอนามัยเพียงพอ มีประมาณ 1 ล้านชิ้น โดยจะเพิ่มหน้ากากเข้าระบบสาธารณสุขเพิ่มอีก 70,000 ชิ้นต่อวัน ส่วนหน้า N95 ยังมีปริมาณเพียงพอ โดยเน้นเจ้าหน้าที่ในจุดปฏิบัติงานที่เสี่ยงติดเชื้อต้องใช้ ซึ่งถ้าหากขาดแคลน จะมีหน่วยงานของสาธารณสุขนำหน้ากากสำรองไปมอบให้

ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกใน 26 ประเทศ ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม– 9 กุมภาพันธ์ 2563 พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จำนวน 40,553 ราย เสียชีวิต 909 ราย ส่วนประเทศจีน พบผู้ป่วย 40,171 ราย เสียชีวิต 907 ราย

https://www.facebook.com/WorkpointNews/videos/474802360090247/

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า