ซูริก-ปารีส-ฮ่องกง ขึ้นแท่นเมืองค่าครองชีพสูงที่สุดของโลก กรุงเทพฯ ขยับลง 20 อันดับ

รายงานประจำปีเผยค่าครองชีพหลายเมืองในเอเชียลดลง คาดว่าจะกลับสู่ภาวะปกติได้ในอีก 2 ปีข้างหน้า

วันที่ 18 พ.ย. 2020 เว็บไซต์ของนิตยสาร ดิอีคอนอมิสต์ (The Economist) เผยแพร่รายงานค่าครองชีพทั่วโลกประจำปี 2020 จากการสำรวจใน 133 เมือง โดยหัวข้อหลักในปีนี้คือ โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าอย่างไร

ผลสำรวจพบว่า ซูริก (สวิตเซอร์แลนด์) และ ปารีส (ฝรั่งเศส) ต่างขยับขึ้นมา 4 อันดับ กลายเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดของโลก ร่วมกับฮ่องกงที่อยู่อันดับ 1 ในปีที่แล้วและยังรักษาอันดับเดิมไว้ได้

อันดับ 4 ได้แก่ สิงคโปร์ ที่เคยอยู่อันดับ 1 เมื่อปีที่แล้ว ส่วนอันดับ 5 ร่วมคือ เทลอาวีฟ (อิสราเอล) ขยับขึ้นมา 2 อันดับ และ โอซากา (ญี่ปุ่น) ที่ตกลงมาจากอันดับ 1

• 1. ซูริก (สวิตเซอร์แลนด์)
• 1. ปารีส (ฝรั่งเศส)
• 1. ฮ่องกง
• 4. สิงคโปร์
• 5. เทลอาวีฟ (อิสราเอล)
• 5. โอซากา (ญี่ปุ่น)
• 7. เจนีวา (สวิตเซอร์แลนด์)
• 8. นิวยอร์ก (สหรัฐฯ)
• 9. โคเปนเฮเกน (เดนมาร์ก)
• 10. ลอสแอนเจลิส (สหรัฐฯ)

ส่วนกรุงเทพมหานครของไทย อยู่ที่อันดับ 46 ขยับลงมา 20 อันดับจากปีที่แล้ว และเป็นเมืองที่ค่าครองชีพถูกลงมากที่สุดอันดับ 4 ร่วมกับมอสโก (รัสเซีย)

ตามรายงานไม่ได้ระบุสาเหตุที่กรุงเทพฯ มีค่าครองชีพลดลง แต่โดยหลักแล้วมักมาจากการลดลงของรายได้ การเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิต นโยบายของรัฐบาล ห่วงโซ่อุปทาน และการแข็งค่าของเงินเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ

มีการวิเคราะห์ว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นในปีนี้ จะส่งผลต่อไปถึงปีหน้า จากการที่เศรษฐกิจโลกน่าจะยังคงไม่กลับสู่ภาวะปกติจนกว่าจะถึงปี 2022