SHARE

คัดลอกแล้ว

ในปัจจุบัน คุณคิดว่าเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ซื้อมาในราคาแพงหรือเปล่า?

หากคุณคิดว่าแพง ก็อาจต้องเตรียมตัวเตรียมใจ และวางแผนการใช้งานและซื้อเสื้อผ้าเสียใหม่

เพราะในอนาคตเสื้อผ้าที่เราใส่ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อยืดสบายๆ ไปจนถึงยีนส์เท่ๆ กำลังจะมีราคาแพงขึ้น หลังราคา ‘ฝ้าย’ ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเสื้อผ้าทั่วโลก มีราคาพุ่งขึ้นมาแพงสุดในรอบ 10 ปี

เรื่องนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร? แล้วเราจะซื้อเสื้อผ้าแพงขึ้นขนาดไหน? TODAY Bizview รวบรวมประเด็นที่น่าสนใจมาให้ทุกคนได้ติดตามกัน!

1.เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2564 ที่ผ่านมา สื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานว่า ‘ราคาฝ้าย’ ในตลาดซื้อขายล่วงหน้าพุ่งขึ้นเกือบ 4% มาอยู่ที่ราคาปอนด์ละ 1.09 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 36.87 บาท

2.ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษที่ราคาฝ้ายพุ่งขึ้นมาสูงถึงระดับนี้ และหากดูเฉพาะในปีนี้ ราคาฝ้ายในตลาดซื้อขายล่วงหน้าในนิวยอร์กก็พุ่งขึ้นมา 28% แล้ว

3.และเมื่อฝ้ายที่เป็นวัสดุหลักในการผลิตเสื้อผ้ามีราคาแพงขึ้น แน่นอนว่าย่อมส่งผลให้เสื้อผ้าจะมีราคาสูงขึ้นตามไปด้วย

โดยเมื่อ 10 ปีก่อนที่ราคาฝ้ายพุ่งขึ้นเพราะเกิดภัยแล้งครั้งใหญ่ ก็ส่งผลให้ราคาเสื้อยืดแพงขึ้นประมาณตัวละ 1.5-2 ดอลลาร์ แต่แบรนด์เสื้อผ้าก็พยายามตรึงราคาเพื่อไม่ให้สูญเสียยอดขายในร้าน

4.ขณะที่ปัจจุบัน ช่วงที่ผ่านมาราคาเครื่องนุ่งห่มก็ปรับเพิ่มขึ้นเป็นระยะอยู่แล้ว โดยถ้าดูเฉพาะในสหรัฐฯ ราคาเสื้อผ้าในเดือน ส.ค.เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 4.2% ตามรายงานภาวะเงินเฟ้อของรัฐบาล

ที่น่าตกใจคือราคาเสื้อเชิ้ตและเสื้อสเวตเตอร์ผู้ชายแพงขึ้น 4.4% กางเกงขายาวและขาสั้นของผู้ชายแพงขึ้น 6.6% และเดรสของผู้หญิงแพงขึ้นถึง 11.9%

5.สาเหตุที่ทำให้ราคาฝ้ายเพิ่มสูงขึ้นขนาดนี้มาจากหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศที่แห้งแล้งในหลายประเทศรวมถึงสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้ส่งออกฝ้ายเบอร์ 1 ของโลก ขณะที่ในประเทศอื่นๆ อย่างอินเดียก็เจอหนอนศัตรูพืชบุกทำลายผลผลิต

6.ในขณะเดียวกัน ดีมานด์หรือความต้องการซื้อฝ้ายก็ปรับเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในเม็กซิโกและจีนที่มีปริมาณการซื้อฝ้ายสูงสุดเป็นประวัติการณ์

7.ไม่เพียงเท่านั้น แต่อีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาฝ้ายพุ่งสูงขึ้นนั้น ก็มีเหตุผลสืบเนื่องมาจากผลกระทบจากนโยบายการค้าในยุค ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ด้วย

8.โดยปีที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศไม่ให้สหรัฐฯ นำเข้าเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ทำจากผ้าฝ้ายในเขตปกครองตนเองซินเจียง ซึ่งเป็นแหล่งผลิตฝ้ายที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน

เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯ ในขณะนั้นอ้างว่ามีหลักฐานชี้ชัดว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวผลิตขึ้นโดยใช้กำลังบังคับแรงงานชาวกลุ่มชาติพันธุ์อุยกูร์

9.แต่มาตรการดังกล่าวยังคงอนุญาตให้บริษัทในสหรัฐฯ สามารถนำเข้าผลิตภัณฑ์ฝ้ายจากจีนได้ หากใช้วัตถุดิบฝ้ายจากที่อื่น ซึ่งนั่นส่งผลให้จีนนำเข้าฝ้ายส่วนใหญ่จากสหรัฐฯ เพื่อผลิตสินค้าและส่งกลับไปขายที่สหรัฐฯ นั่นเอง

10.ดีมานด์การซื้อฝ้ายสหรัฐฯ จากจีนนั้นเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ระบุว่า อัตราการส่งฝ้ายจากสหรัฐฯ ไปจีนในวันเริ่มต้นปีการตลาดใหม่อย่างวันที่ 1 ส.ค. นั้นสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วถึง 83%

11.ด้วยดีมานด์ที่มากมายมหาศาลในช่วงที่วัตถุดิบขาดแคลน บวกกับมีนักเก็งกำไรเข้าในตลาด ทำให้ราคาฝ้ายพุ่งสูงขึ้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

12.มากไปกว่านั้น ที่ถือเป็นข่าวร้ายสำหรับผู้บริโภคคือ ผู้ค้าปลีกและผู้ผลิตเองก็กำลังเผชิญกับต้นทุนการขนส่งที่สูงขึ้น, ค่าแรงสูงขึ้น และความล่าช้าของเรือขนส่ง และสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะกระทบกับราคาเสื้อผ้าให้ปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วยอย่างแน่นอน

13.ด้วยแรงกดดันมากมาย ทำให้ผู้ค้าปลีกอย่างแบรนด์เสื้อผ้าต่างๆ ไม่อาจหาวิธีที่จะสามารถมาชดเชยต้นทุนที่สูงขึ้น รวมถึงอาจไม่ได้เห็นการลดราคาสินค้ามากนัก

14.อย่างไรก็ตาม Katherine Tai ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ วางแผนที่จะเริ่มการเจรจาการค้ารอบใหม่กับจีน ในขณะที่ยังคงเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอยู่

15.ขณะที่ล่าสุดกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ คาดการณ์ว่าการบริโภคฝ้ายในจีนในปีการตลาดปัจจุบันน่าจะอยู่ที่ 41 ล้านเบลล์ หรือประมาณ 8.9 เมตริกตัน เพิ่มขึ้น 24% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนส่วนหนึ่งจากความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้นหลังเกิดโรคระบาด

16.ข่าวดีก็คือผลผลิตฝ้ายในปีนี้ของสหรัฐฯ ดูมีแนวโน้มแข็งแกร่ง ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีปัญหาฝ้ายขาดแคลน โดยกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ให้คะแนนการเก็บเกี่ยวในปีนี้ที่ 62% จากปีก่อนหน้าที่ได้คะแนน 40%

ซึ่งหากผลผลิตเป็นไปได้ดีตามคาด ก็อาจส่งผลดีต่อราคาฝ้ายในอนาคต และผู้บริโภคเองก็ได้รับผลประโยชน์ไปด้วย

17.ท้ายที่สุดคงต้องติดตามต่อว่าราคาเสื้อผ้าจะขยับขึ้นขนาดไหน ในอนาคตการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะเป็นอย่างไร ผลผลิตฝ้ายในสหรัฐฯ จะเป็นไปได้ดีตามคาดการณ์หรือไม่

แต่ที่แน่ๆ สำหรับผู้บริโภคแล้ว ในยุคที่เศรษฐกิจยังไม่รู้จะไปทางไหน และอะไรก็ดูไม่แน่นอน คงต้อง ‘วางแผนการใช้เงิน’ ให้ดีไว้ก่อนเช่นเดิม!

อ้างอิง:

https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-09-28/cotton-prices-near-decade-high-signal-jeans-could-get-pricey?sref=LQZclhPm

https://edition.cnn.com/2021/10/05/investing/cotton-prices/index.html

https://www.foxbusiness.com/lifestyle/cotton-clothing-prices-us-inflation

https://www.wsj.com/articles/cotton-prices-surge-to-highest-level-in-a-decade-11633426200

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า