SHARE

คัดลอกแล้ว

ศาลแพ่ง ยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว เพิกถอน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คุมการชุมนุม

วันที่ 8 ต.ค. 2564 ศาลแพ่ง มีคำสั่งในคดีหมายเลขดำที่ พ4639/2564 ที่นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ กับพวกรวม 3 คน ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) กับพวกรวม 6 คน ขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.  2548 (ฉบับที่ 15) ข้อ 3 ซึ่งศาลมีคำสั่งให้รับคำฟ้องเมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา

สรุปใจความได้ว่า

“จำเลยที่ 1 ออกข้อกำหนดดังกล่าวห้ามมิให้มีการชุมนุม การทำกิจกรรม หรือการมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัดหรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยเพื่อป้องกันและระงับยับยั้งการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยปัจจุบันยังพบการติดเชื้อไวรัสดังกล่าวของบุคคลกลุ่มต่างๆ ภายในประเทศ อีกทั้งสถานการณ์ยังคงมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

จำเลยที่ 2 จึงออกประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบดังกล่าวมาบังคับใช้มาตรการด้านสาธารณสุขในการเว้นระยะห่าง และการป้องกันการสัมผัสของบุคคลอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อป้องกันมิให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อดังกล่าวในลักษณะกลุ่มก้อน (Cluster) ภายในประเทศกระจายไปในวงกว้างและสร้างความเสียหายให้แก่ระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ แต่ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อดังกล่าว ยังพบว่า มียอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต

แม้โจทก์ทั้งสามจะอ้างว่า ไม่มีหลักฐานใดชี้ให้เห็นว่า การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อดังกล่าวมาจากการชุมนุมสาธารณะ แต่การรวมกลุ่มเพื่อทำกิจกรรมของบุคคลจำนวนมากย่อมเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อดังกล่าวได้ง่าย เจือสมกับที่โจทก์ที่ 2 เบิกความว่ารู้สึกกลัวการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อดังกล่าว จึงต้องใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือและหน้ากากอนามัยในการมาชุมนุม ยิ่งแสดงให้เห็นว่ายังมีความจำเป็นต้องบังคับใช้มาตรการด้านสาธารณสุขในการเว้นระยะห่าง เพื่อป้องกันมิให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อดังกล่าวในลักษณะกลุ่มก้อน (Cluster) ภายในประเทศกระจายไปในวงกว้าง

กรณีตามคำร้องของโจทก์ทั้งสาม จึงยังไม่มีเหตุผลเพียงพอ และยังไม่มีความจำเป็นเพื่อคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษา ยกคำร้องของโจทก์ทั้งสาม”

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า