ศาลอุทธรณ์ สั่งจำคุก สนธิญาณ ขวางเลือกตั้ง ไม่รอลงอาญา ยกฟ้อง 3 กปปส.

ศาลอุทธรณ์ สั่งจำคุก สนธิญาณ ขวางเลือกตั้ง ไม่รอลงอาญา ยกฟ้อง 3 กปปส. คดีถูกกล่าวหาเป็นกบฏ

วันที่ 20 ต.ค. 2564 ศาลอาญา รัชดาภิเษก มีคำสั่งนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีกบฏ กปปส. ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม แกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส., นายสกลธี ภัททิยกุล อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์, นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และอดีตประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง และสภาปฏิรูปการเมือง และ นายเสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ มั่วสุมตั้งแต่10 คนขึ้นไป ก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ หมายเลขดำ อ.1911/57 เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2556 ถึง 1 พ.ค. 2557 

โดยจำเลยทั้งสี่เดินทางมาศาลพร้อมด้วยเเกนนำ กปปส.หลายคน เช่น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส.นายถาวร เสนเนียม, นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ที่เดินทางมาให้กำลังใจ 

คดีนี้ มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2562 โดยศาลมีคำพิพากษาเห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะลงโทษจำเลยทั้งสี่ได้ พิพากษายกฟ้อง ต่อมาอัยการโจทก์ยื่นอุทธรณ์ ขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสี่ด้วย จำเลยทั้งหมดจึงต้องเดินทางมาฟังคำพิพากษาในวันนี้

โดยนายสุเทพ กล่าวว่า วันนี้ก็เดินทางมาให้กำลังใจกับจำเลยทั้ง 4 คน และก็พร้อมน้อมรับตามคำพิพากษาของศาล แม้ว่าจะเป็นศาลใดก็ตามก็เชื่อว่ามีการตัดสินไปตามหลักของกระบวนการยุติธรรม 

ล่าสุดศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยที่หนึ่ง คือนายสนธิญาณ ได้กระทำความผิดตาม พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.เเละ สว. กรณีร่วมกับนายสำราญ รอดเพชร ขัดขวางการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ โรงเรียนสุโขทัย เขตดุสิต ให้จำคุก 1 ปี คำให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณารถโทษให้หนึ่งในสามคงจำคุก 8 เดือน ไม่รอลงอาญา รวมถึงมีคำสั่งให้เพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง 5 ปี

โดยทนายฝ่ายจำเลยได้เตรียมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 100,000 บาท ยื่นขอประกันตัวสนธิญาณ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล

ส่วนจำเลยที่ 2 – 4 โจทก์ไม่ได้ร่วมนำสืบว่าได้ร่วมพยานหลักฐานไปขัดขวางการเลือกตั้ง อีกทั้งไม่ปรากฎพยานหลักฐานว่าจำเลยที่ 2 – 4 ได้ร่วมขัดขวางการเลือกตั้ง ส่วนอุทธรณ์โจทก์ข้ออื่นไม่เป็นสาระสำคัญ ที่เเก้เฉพาะจำเลยที่ 1 นอกนั้นให้เป็นตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น