SHARE

คัดลอกแล้ว

สธ.ชี้สถานการณ์โควิดมีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่ไม่พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อน ย้ำไทยเข้าสู่ช่วงพ้นการระบาดใหญ่ ขอให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นลดความรุนแรงและเสียชีวิต

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศอยู่ในช่วงหลังการระบาด Post-Pandemic หรือเข้าสู่การเป็น ‘โรคประจำถิ่น’ สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือการควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ไม่ให้เพิ่มขึ้น การดูจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยอาการหนักใส่ท่อช่วยหายใจ สิ่งเหล่าจะสะท้อนภาพรวมและระบบสาธารณสุขว่ารองรับได้หรือไม่

อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลอัตราป่วยตายอยู่ที่ 0.07% ใกล้เคียงกับไข้หวัดใหญ่ อัตราตายอยู่ที่ 0.1% ถ้าดูสถานการณ์ตอนนี้ ความรุนแรงของโรคก็น้อยกว่าหลายโรคแล้ว แม้แนวโน้มการติดเชื้อทั่วโลกกำลังเพิ่มขึ้น แต่ไม่เร็วเท่ากับช่วงสายพันธุ์เดลตา หรือ โอไมครอน ตอนระบาดใหม่ๆ จึงยังต้องรณรงค์ให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงเพื่อควบคุมสถานการณ์หลังผ่านระยะ Post-Pandemic

นพ.โอภาส กล่าวว่า ที่มีการตื่นตระหนกเมื่อมีการรายงานพบผู้ติดเชื้อในพื้นที่ต่างๆ นั้น ขณะนี้กำลังพิจารณาจุดสมดุลของฐานต่ำสุด เทียบกับช่วงการระบาดของสายพันธุ์เดลตาซึ่งมีผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 300-400 รายต่อวัน ปอดอักเสบ 800-900 รายต่อวัน เสียชีวิต 20-30 ราย ต่อวัน หากตัวเลขอยู่ระดับนี้แลกกับการที่เราสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ คิดว่าคนส่วนใหญ่ก็น่าจะพอยอมรับได้ แต่กระทรวงสาธารณสุขจะพยายามดูแลให้มีผู้ป่วยและเสียชีวิตให้น้อยที่สุด

⚫ แนวโน้มพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ไม่พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อน

จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในบางจังหวัด ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. มีผู้ติดเชื้อ 1,735 ราย, วันที่ 28 มิ.ย. ติดเชื้อ 1,761 ราย และวันที่ 29 มิ.ย. ติดเชื้อ 2,569 ราย ขณะที่ผู้ป่วยปอดอักเสบ จำนวน 610, 638, 665 ราย ตามลำดับ และผู้ป่วยที่ใส่เครื่องช่วยหายใจ จำนวน 286, 290, 300 ราย ตามลำดับ จากจำนวนผู้ป่วยหนักและผู้ป่วยที่ใส่เครื่องช่วยหายใจมีรายงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แสดงให้เห็นว่าผู้ที่ติดเชื้อรายใหม่มักมีอาการน้อยไม่รุนแรง

ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่เข้าระบบการรักษาในโรงพยาบาลเป็นผู้ป่วยระดับสีเหลือง คือ กลุ่มที่มีอาการไม่รุนแรง แต่มีอาการเหนื่อยหอบ หายใจเร็ว ซึ่งอัตราการครองเตียงระดับ 2-3 หรือสีเหลืองและสีแดงต่ำกว่า 10% ตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย. 65 จนถึงปัจจุบันระบบสาธารณสุขมีการเตรียมความพร้อมสามารถรองรับได้ ทั้งเตียง แพทย์ ยา และเวชภัณฑ์

อธิบดีกรมควบคุมโรค ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก รักษาสุขภาพให้แข็งแรง และปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention คือ การป้องกันการติดโรค การเว้นระยะห่าง และล้างมือบ่อยๆ สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในสถานที่แออัด หากพบมีอาการน่าสงสัยควรตรวจหาเชื้อ Universal Vaccination คือ ขอความร่วมมือให้มารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็มที่ 3 เป็นพื้นฐาน และฉีดเข็มกระตุ้นต่อไปทุก 4 เดือน เพื่อยกระดับภูมิคุ้มกัน โดยเน้นในกลุ่มเสี่ยง 608 ได้แก่ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ รวมถึงผู้ที่ได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ และกลุ่มดังกล่าวขอให้หลีกเลี่ยงการร่วมกิจกรรมที่มีคนรวมกลุ่มจำนวนมาก หลีกเลี่ยงโดยสารขนส่งสาธารณะทุกประเภท และเลี่ยงการเดินทางไปต่างประเทศ ส่วนสถานประกอบการต่างๆ ยังขอให้ปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting

⚫ แนวทางการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ฉบับที่ 23

อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงเกณฑ์การใช้ยารักษาผู้ป่วยโควิด-19 ตามระดับความรุนแรงของโรคและปัจจัยเสี่ยง โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ออกแนวทางการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ฉบับที่ 23 ซึ่งได้มีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์เพื่อให้การดูแลรักษาผู้ป่วยให้มีประสิทธิภาพสูงสุดให้เป็นไปตามแนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล

กรณีโรคติดเชื้อโควิด-19 สำหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข ฉบับปรับปรุง วันที่ 18 พฤษภาคม 2565 โดยความร่วมมือของคณาจารย์ ผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานต่าง ๆ และผู้แทนทีมแพทย์ที่ปฏิบัติหน้างาน ในการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด ได้ทบทวนและปรับแนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วย ตามข้อมูลวิชาการในประเทศ และต่างประเทศ
.
รายละเอียด https://covid19.dms.go.th/Content/Select_Landding_page…

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า