แรงงานเกาหลีกลับไทย อยู่บ้านใช้ชีวิตปกติ แต่ลูกชายถูกห้ามไป ร.ร.

วันที่ 7 มี.ค. นายวัลลภ ประวัติวงศ์ นายอำเภอกบินทร์บุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบ หลังจากที่มีการโพสต์ในโซเชียลมีเดียว่ามี “ผีน้อย” หรือแรงงานผิดกฎหมายเดินทางกลับจากเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 5 มี.ค. แล้วใช้ชีวิตปกติโดยเดินทางไปรับลูกที่โรงเรียน จนทำให้เกิดความแตกตื่นในพื้นที่
.
โดยหญิงสาว ที่ถูกระบุถึง เปิดเผยว่า ได้ไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้เมื่อ 10 เดือนก่อน หลังจากนั้นก็ขอลางานเพื่อกลับบ้านที่ประเทศไทยซึ่งเป็นช่วงที่โควิด 19 กำลังระบาดพอดี ซึ่งก่อนกลับได้ถูกทางการเกาหลีใต้กักตัวไว้เพื่อรอดูอาการกว่า 14 วันก่อนขึ้นเครื่องบิน พบว่าไม่มีไข้สูงจึงให้เดินทางกลับประเทศไทยได้ เมื่อวันที่ 5 มี.ค.

เมื่อมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิก็ได้มีการตรวจตามขั้นตอนของหน่วยงาน จนตนกลับบ้านได้ คิดว่าตัวเองปลอดภัยระดับหนึ่งเพราะตัวเองไม่มีไข้ และทางหน่วยงานไม่มีการกักตัว เมื่อมาถึงบ้านใช้ชีวิตตามปกติอยู่กับครอบครัวและญาติพี่น้องพ่อแม่ จนมีเมื่อวานมีการโพสต์หาว่าตนไปหาลูกที่โรงเรียน โดยไม่ยอมกักตัว จนเกิดความเสียหาย ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้เข้าไปในโรงเรียน มีเพียงแต่ย่าเข้าไปรับหลานเท่านั้น
.
จากนั้นเธอได้รับการติดต่อจากครูประจำชั้นให้ไปพบที่โรงเรียน ครูบอกใม่ให้ลูกมาโรงเรียนอีกเพราะแม่กลับมาจากเกาหลี และมีการโทรแจ้งหน่วยงานต่าง ซึ่งตนก็สงสัยทำไมถึงทำให้เป็นเรื่องใหญ่ พร้อมครูยังบอกว่าไม่ให้ลูกของตนไปสอบด้วย และต่อว่าตนเป็นคนทำให้เดือดร้อนเพราะเด็กกำลังจะสอบ รวมทั้งให้ลูกตนมาสอบวันเปิดเทอมแทน
.
ตนคิดว่าคนไทยเราเองนั่นแหละที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้เท่าไหร่ และอยากให้สังคมไทยเข้าใจด้วยว่าหากเรามีการติดเชื้อจริงประเทศเขาก็คงไม่ส่งให้เรากลับมา เขาจะรับรักษาเราจนหาย วอนให้เข้าใจในสิ่งนี้
.
“เราเข้าใจโรคมันตรวจยากต้อง 14 วันถึงจะเห็นผลหลังจากติดเชื้อแล้ว แต่เราผ่านการกักตัวเองก่อนบิน ถึงประเทศไทยก็มีการตรวจเช้ก เราก็ปลอดภัยในระดับหนึ่งแล้ว อยากให้สังคมเข้าใจ ถ้าทำแบบนี้จะเป็นปัญหาสังคมต่อไปเรื่อยๆ หนูรับไม่ได้ ก็เข้าใจว่าเขาก็กลัวเราติดเชื้อ แต่ว่าเราคิดว่าเราตรวจเช็กปลอดภัยระดับหนึ่งแล้วอยากให้สังคมเข้าใจ”
.
ด้านสามีของหญิงสาว กล่าวว่า ตนมีความมั่นใจ 100%ว่าไม่มีการติดเชื้อโควิด คือหลังจากจากที่กลับมาก็ใช้ชีวิตตามปกติ แต่ตอนนี้ได้รับผลกระทบหลังจากมีการโพสต์ต่อว่าเรื่องลูกไปโรงเรียน คนเราไม่รู้จักกันอย่าโพสต์ต่อว่ากันขนาดนี้เลย ไม่เข้าใจ ทำให้สังคมรังเกียจครอบครัวของตน และอยากให้คนที่โพสต์ช่วยแก้ไขข้อมูลด้วยเพราะภรรยาตนเองกลับมาผ่านขั้นตอนทุกอย่างของทางราชการแล้ว เพราะถ้ามีเชื้อคงไม่ได้กลับมาถึงบ้าน เราไม่ได้นิ่งเฉยกับสังคม เรารู้ว่าควรทำตัวอย่างไร วอนให้เข้าใจ

ขณะที่ นายอำเภอกบินทร์บุรี กล่าวว่า ตรวจสอบแล้วเรื่องการไปส่งลูกที่โรงเรียนไม่เป็นความจริง มีเฉพาะตอนที่หญิงสาวเข้าไปเพราะโรงเรียนเชิญไปพูดคุย การดำเนินการสวนของอำเภอและ รพ.กบินทร์บุรี ได้ให้ทาง ผู้ใหญ่บ้านและสาธารณสุขเข้ามาดูบุคคลที่กลับมาจากประเทศสุ่มเสี่ยงที่เข้ามาในพื้นที่ให้แจ้งให้ทราบ จะได้เข้าไปพูดคุยไม่ให้ไปสัมผัสคนอื่นให้อยู่แต่ในบ้าน ในช่วง 14 วัน และหากไม่สามารถกักตัวเองได้ดีพอก็มีห้องที่ รพ.กบินทร์บุรี จัดไว้ให้
.
ขณะเดียวกันก็จะประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ว่าถ้ามีกรณีอย่างนี้อีกจะต้องทำย่างไรบ้างให้ประชาชนไม่แตกตื่น