กต.แจงนักการทูตไม่ใช่วีไอพีเข้าไทยต้องทำตามระเบียบ ศบค. เผยขณะทูตถูกคอนโดฯปฎิเสธเข้าพักไม่มีเชื้อโควิด-19ขณะนี้ไปกักตัวที่โรงแรมASQออกค่าใช้จ่ายเอง
วันที่ 17 ก.ค.2563 นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีนักการทูต สัญชาติเอสโตเนียว่า นักการทูตรายนี้เดินทางออกจากแฟรงก์เฟิร์ตเมื่อวันที่ 15ก.ค.63 เวลา 22.00น. เดินทางเข้าไทยเมื่อวันที่ 16 ก.ค.63 เวลา 14.00น. ก่อนขึ้นเครื่องได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผลเป็นลบ และเมื่อถึงสนามสุวรรณภูมิได้ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขและตรวจหาเชื้ออีกครั้งผลเป็นลบ ไม่ติดเชื้อโควิด-19 จึงเดินทางเข้าที่พักโดยมีรถตู้จากสำนักงานต้นสักกัดไปรับ รถตู้ได้ทำฉากกั้นระหว่างคนขับและนักการทูตเพื่อป้องกันเป็นอย่างดี เมื่อเดินทางมาถึงที่คอนโดฯ แล้วได้รับแจ้งว่านิติบุคคลว่าไม่สามารถให้เข้าพักได้ กระทรวงการต่างประเทศจึงประสานสำนักงานต้นสังกัดหาที่พักให้ และเข้าในโรมแรมแกรนด์เซ็นเตอร์พอยต์ เทอร์มินอล 21 ซึ่งเป็นสถานที่กักกันที่รัฐกำหนด (ASQ) ผู้เข้าพักจ่ายเงินเอง ในเวลา 23.00 น.
นายเชิดเกียรติ กล่าวว่า นักการทูตเป็นผู้ที่เข้ามาปฏิบัติภารกิจส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และจะมีเดินทางมาอีกเป็นระยะ ๆ แต่จำนวนไม่มาก ผู้ที่เดินทางเข้ามาต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบ มาตรการของ ศบค. ไม่มีอภิสิทธิ์อันใดเกินกว่าที่ควร และจะต้องกักตัว 14 วัน ซึ่งบ่ายวันนี้ (17 ก.ค.) กระทรวงการต่างประเทศจะเชิญตัวแทนสถานทูตทั้งหมดที่ประจำประเทศไทยมาทำความเข้าใจและรับฟังข้อเสนอร่วมกัน
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า นักการทูตไม่ใช่วีไอพี แต่ได้รับการคุ้มครองตามอนุสัญญาเวียนนาซึ่งเรื่องของเอกสิทธิ์เป็นการคุ้มครองเพียงให้ปฏิบัติหน้าที่ในประเทศของเราอย่างมีประสิทธิภาพ ในฐานะตัวแทนทางการทูตและผู้แทนของรัฐ และภายใต้อนุสัญญาเวียนนา นักการทูตจะเคารพและปฏิบัติตามระเบียบและกฎหมายของประเทศเจ้าบ้าน หรือมาตรการของ ศบค. ซึ่งบ่ายวันนี้จะมีการประชุมทบทวนมาตรการให้เข้มงวดมากขึ้น หลังเกิดกรณีทหารอียิปต์และลูกสาวคณะทูตซูดาน พร้อมเชิญตัวแทนคณะทูตของทุกสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศในไทย มารับฟังการบรรยายโดยสรุป เพื่อสร้างความเข้าใจและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยจะมีมาตรการที่ชัดเจนภายหลังการประชุมวันนี้