SHARE

คัดลอกแล้ว

สาธารณสุขเพิ่มมาตรการเชิงรุกค้นหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 แม้จำนวนผู้ป่วยจะน้อยลง พร้อมจัดทำสื่อความรู้เข้าถึงคนพิการทุกประเภท และเปิดสายด่วน 1668 ปรึกษาปัญหาโควิด-19

วันนี้ (16 เมษายน 2563) ที่ศูนย์ปฏิบัติการด้านข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี  นายแพทย์อนุพงศ์เผยถึงกรณี ศึกษาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ใน จ.ภูเก็ต ได้ข้อมูลมาชุดหนึ่ง โดยเปรียบเทียบผู้ต้องสงสัยหรือมีอาการเข้าข่ายติดเชื้อ เมื่อเข้ามาตรวจพบผลเป็นบวก มีอัตราอยู่ที่ 4.5% แต่ถ้าหากคนที่ตรวจอยู่ในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง อัตราการติดเชื้อจะขึ้นมาอยู่ที่ 6.24% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่ามาก

สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำที่จะตรวจเจอเชื้อนั้นน้อยลง แต่อย่างไรก็ตาม ยิ่งเรากดตัวเลขให้น้อยลง เรายิ่งต้องมีมาตรการในการค้นหาผู้ป่วยที่เข้มข้นมากขึ้น ซึ่งภูเก็ตไปกรณีศึกษาที่ทางสาธารณสุขได้ทำมาตรการเชิงรุกหรือค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก (Active case finding) เพิ่มเติมจากการทำ Contact tracing ก็คือหาผู้สัมผัสใกล้ชิด

ต่อไปเมื่อเรามีห้องตรวจปฏิบัติการที่ดีมากขึ้น การค้นหาผู้ที่ยังไม่มีอาการอยู่ในชุมชน จะเป็นมาตรการที่เราจะเข้มข้นต่อไป  ยิ่งเรามีตัวเลขน้อยลง การทำงานของเราจะหย่อนไม่ได้ รวมไปถึงพี่น้องประชาชนในเรื่องของการล้างมือบ่อยๆ สวมใส่หน้ากากอนามัย และการทำ Social Distancing พวกเราก็อย่าการ์ดตก การ์ดตกเมื่อไหร่พวกเราก็จะมีความเสี่ยง

ขณะที่นายแพทย์ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีความห่วงใยคนพิการในสถานการณ์โควิด-19 ที่มีจำนวน 2.02 ล้านคน เป็นกลุ่มที่มีข้อจำกัดหลายประการ อาทิ ด้านสายตา และด้านการได้ยิน จะมีข้อจำกัดในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารความรู้ที่เกี่ยวกับโรค ตลอดจนการเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวกับการป้องกันและการรักษา คนพิการติดเตียง  คนพิการเด็กหรือสูงอายุ มีอุปสรรคในการปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ทำให้ป้องกันโรคยากกว่าคนอื่นๆ ในสังคม

กรมการแพทย์ จึงได้ร่วมกับวิทยาลัยราชสุดาจัดทำและเผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลการดูแล ป้องกัน รักษาโรคโควิด-19 ให้เข้าถึงคนพิการทุกประเภทและผู้ดูแล เช่น จัดทำตัวอักษรวิ่ง/ ภาษามือสำหรับคนพิการทางการได้ยิน จัดทำสื่ออักษร/ เสียงสำหรับคนพิการทางการมองเห็น พร้อมเปิดช่องทางให้คำปรึกษาการดูแลคนพิการ ทางหมายเลขโทร 0 2591 4242 ต่อ 6734 6728-9 หรือสายด่วนกรมการแพทย์ 1668 มีเครือข่าย อสม. และเจ้าหน้าที่บุคลากรสาธารณสุขประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ออกเยี่ยมบ้าน ซึ่งจะส่งต่อข้อมูลมายังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้พิการที่ได้รับผลกระทบ และสามารถขอความช่วยเหลือ ร้องทุกข์ได้ที่สายด่วนศูนย์ประชาบดี โทร 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ ได้ติดตามเฝ้าระวังและสร้างความเข้าใจในการปฏิบัติตัว โดยเฉพาะกลุ่มคนพิการที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ คนพิการสูงอายุ คนพิการสภาพติดเตียง เด็กพิการ และคนพิการที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคปอดเรื้อรัง เป็นต้น ที่อาจมีอาการรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นหากติดเชื้อโควิด-19  ขอแนะนำให้คนพิการและผู้ดูแล ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ให้บ่อยขึ้น โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะและก่อนรับประทานอาหาร เลี่ยงการใช้มือสัมผัสหน้า สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน หลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่ที่มีคนหนาแน่น รักษาสุขภาพด้วยการกินร้อน ใช้ช้อนส่วนตัว ล้างมือ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ และดูแลรับผิดชอบต่อสังคม ในกรณีที่เดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยง ต้องแยกและสังเกตอาการไม่น้อยกว่า 14 วัน

นายแพทย์ณัฐพงศ์กล่าวต่อว่า สำหรับสถานพยาบาล แม้ขณะนี้ ยังไม่พบรายงานคนพิการติดเชื้อโควิด-19 สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟู ได้กำหนดแนวทางการปฏิบัติในสถานพยาบาลทั่วประเทศ ได้แก่ การคัดกรองประเมินความเสี่ยงก่อนเข้ารับบริการ พิจารณาเลื่อนบริการและปรับรูปแบบบริการในกลุ่มมีความเสี่ยงสูง ปรับเพิ่มระบบบริการสำหรับคนพิการโดยจัดบริการการดูแลฟื้นฟูตามประเภทและระดับความพิการ ได้แก่ ให้บริการเลื่อนนัดทางโทรศัพท์ การให้คำแนะนำ/บริการทางการแพทย์ผ่านระบบทางไกล (Tele-Medicine) การจัดส่งยาทางไปรษณีย์ รวมทั้งจัดบริการช่องทางลงทะเบียนที่สะดวกสำหรับคนพิการ เพื่อรับเงินบรรเทาความเดือดร้อนจากรัฐบาลและมาตรการเยียวยาเพิ่มเติม

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า