สธ.เผยโควิด-19 ระบาดรอบใหม่เชื้อกระจายเร็ว วันนี้ยอดผู้ป่วยเพิ่ม 985 ราย⁣⁣ สะสม 33,610 ราย

กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 985 คน แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 980 คน (ในระบบบริการฯ 634 คน ค้นหาเชิงรุก 346 คน ติดเชื้อจากต่างประเทศ 5 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม สะสม 97 คน

วันที่ 12 เม.ย.2564  นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกร​มควบคุมโรค​ แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันว่า พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 985 รายเป็นในระบบบริการ 634 ราย คัดกรองเชิงรุก 364 ราย มาจากต่างประเทศ 5 ราย ขณะที่สถานการณ์ผู้ป่วยที่กำลังทำการรักษา 5,265 ราย แบ่งเป็นในโรงพยาบาล 5,246 ราย ในโรงพยาบาล 4,638 ราย ในโรงพยาบาลสนาม 582 ราย อาการหนัก ใส่ท่อเครื่องช่วยหายใจ 9 ราย สำหรับผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 33,610 ราย รักษาหายเพิ่ม 34 ราย ผู้ป่วยรักษาหายแล้วรวม 28,248 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่ 5,265 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ผู้เสียชีวิตสะสม 97 ราย นอกจากนี้ ยังจับตาสถานการณ์รอบอาเซียน ที่กัมพูชา มีผู้ติดเชื้อวันละหลายร้อยมาตลอดโดยวันนี้ 157 ราย มาเลเซีย 1,739 คน ฟิลิปปินส์ จำนวน 11,681 คน

สถานการณ์ภาพรวมของประเทศ มีผู้ติดเชื้อเชื่อมโยงสถานบันเทิง 73 จังหวัด วันนี้กรุงเทพฯติดเชื้อ 137 คน รวม 1,431 คน เชียงใหม่ 246 คน รวม 629 คน ชลบุรี 92 คน รวม 477 คน  สมุทรปราการ 83 คน รวม 359 คน ทั้งนี้ ต้องดูแนวโน้ม 1-2 สัปดาห์ แต่ขณะนี้พบว่าการแพร่ระบาดเริ่มชะลอตัว และขอเน้นย้ำสำหรับผู้ติดเชื้อขออย่าปกปิดไทม์ไลน์หรือข้อมูลการเดินทาง เพื่อความปลอดภัยของส่วนรวมรวมถึงขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนหมู่มาก ไม่ควรเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง และใกล้ชิดกลับผู้ที่ไม่สวมหน้ากาก

กรมการแพทย์ยืนยันจัดสรรเตียงให้ผู้ป่วยเพียงพอ

ด้านนพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงการบริหารจัดการเตียงสำหรับรองรับผู้ป่วยโควิดว่า ผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิดและต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลทุกคน จะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษา ไม่ว่าจะเป็น รพ.รัฐบาล หรือ รพ.เอกชน เนื่องจากมีสิทธิการรักษาตามระบบของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ, สำนักงานประกันสังคม ตลอดจนถึงสิทธิของผู้ที่เป็นข้าราชการด้วย การแอดมิทใน รพ.ต้องจ่ายเงินหรือไม่ ยืนยันว่าไม่ต้องจ่าย ไม่ว่าจะ รพ.เอกชน หรือ รพ.รัฐ ยกเว้นว่ามีประกันส่วนตัว รพ.เอกชนจะสอบถาม แล้วให้ประกันช่วยจ่ายก่อน นอกเหนือจากนั้น 3 กองทุน ไม่ว่าจะเป็นกองทุน สปสช. กองทุนข้าราชการที่กรมบัญชีกลางดูแลอยู่ หรือกองทุนประกันสังคม จะรับดูแลให้ประชาชน นี่เป็นนโยบายที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขดูแลประชาชนทุกคนที่แอดมิทที่ รพ.ในการตรวจรักษาโควิด” นพ.สมศักดิ์ระบุ
นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้รายงานเข้ามาว่าสามารถหา Hospitel ในส่วนของเอกชนเพิ่มขึ้นอีก 3,900 เตียง ซึ่งเป็นการจับคู่โรงพยาบาลกับโรงแรมสำหรับจำนวนเตียงที่เตรียมไว้รองรับผู้ป่วยโควิดทั่วประเทศ (รพ.ปกติ, รพ.สนาม และ Hospitel) มีทั้งสิ้นกว่า 23,483 เตียง แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 3,967 เตียง และต่างจังหวัด 19,516 เตียง โดยยังมีเตียงว่างอยู่กว่า 16,000 เตียง ซึ่งเป็นข้อมูล ณ วันที่ 11 เม.ย.64

สำหรับการเปิดสายด่วนในเรื่องการหาเตียงนั้น จะมีเปิดสายให้บริการในส่วนของสายด่วนกรมการแพทย์ โทร 1668 ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 20.00 น., ส่วนสายด่วน สปสช. โทร 1330 ให้บริการตลอด 24 ชม. และจะมีให้บริการเพิ่มเติมตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (13 เม.ย.) ของกรุงเทพมหานคร คือ ศูนย์เอราวัณ โทร 1669 ให้บริการตลอด 24 ชม. แต่จะเป็นเฉพาะในกรุงเทพฯ เท่านั้น

ด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงษ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้คำแนะนำกรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในสถานที่ทำงาน หรือในคอนโดมิเนียม ดังนี้

1. ข้อปฏิบัติสำหรับบุคคล
   -ให้พนักงาน/ผู้พักอาศัย หยุดงานทันที และแยกตัวเองจากผู้อื่น
   -แจ้งพนักงานควบคุมโรคติดต่อ หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ภายใน 3 ชม. เพื่อควบคุมโรคและคัดกรองกลุ่มเสี่ยง
   -ผู้มีความเสี่ยงสูง ให้รีบพบแพทย์ทันที พร้อมทั้งกักตัวว 14 วัน
   -ผู้มีความเสี่ยงต่ำ แยกตัวเองเพื่อสังเกตอาการ 14 วัน หากมีอาการให้รีบพบแพทย์ทันที
2. ข้อปฏิบัติสำหรับสถานที่
   -หยุดกิจกรรมในแผนก/ชั้น ที่มีคนติดเชื้อ 1-3 วัน เพื่อทำความสะอาด
   -พนักงาน/ผู้พักอาศัย ทำความสะอาดสิ่งของที่ใช้งานบ่อยๆ เช่น โต๊ะทำงาน,โทรศัพท์
   -ทำความสะอาดบริเวณที่มีผู้สัมผัสจำนวนมาก เช่น ราวบันได ลูกบิดประตู ห้องน้ำ
   -ระมัดระวังการเก็บขยะติดเชื้อ
   -พนักงานทำความสะอาดต้องสวมอุปกรณ์ เช่น ถุงมือ ผ้ากันเปื้อน ผ้าปิดจมูก และรองเท้ายางหุ้มแข้งตลอดเวลา
3. ข้อปฏิบัติสำหรับระบบ/สภาพแวดล้อม
   -ติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิ, จุดจ่ายแอลกอฮอล์เจล
   -จัดการแยก/ทำลาย ขยะติดเชื้อ
   -จัดการระบบระบายอากาศให้หมุนเวียนได้ดีขึ้น

ส่วนความคืบหน้าการจัดสรรวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ว่า ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. – 11 เม.ย. 64 มีผู้ได้รับวัคซีนทั่วประเทศรวมแล้ว 570,052 โดส แบ่งเป็น ผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรก 498,791 ราย และผู้ได้รับวัคซีนเข็มสอง 71,261 ราย การจัดหาวัคซีนของประเทศไทยยังเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ ส่วนวัคซีนจากซิโนแวก ที่ไทยเพิ่งได้รับเข้ามาเมื่อวันที่ 10 เม.ย. จำนวน 1 ล้านโดสนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพก่อนจะจัดสรรต่อไปยังทั่วประเทศ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอีก 2-3 วัน