บุคลากรแพทย์ฉีดไฟเซอร์เข็ม 4 เหตุต้องไปเรียนต่อ ประเทศปลายทางไม่รับรองวัคซีน ‘ซิโนแวค’

นพ.โสภณ แจงปมบุคลากรแพทย์ฉีดไฟเซอร์เข็ม 4 ต้องเดินทาไปประเทศแคนาดา ซึ่งไม่รับรองวัคซีน ‘ซิโนแวค’ รพ.ต้นสังกัดจึงทำหนังสือส่งตัวไปรับวัคซีนเพิ่ม

วันที่ 20 ส.ค. 2564 จากกรณีที่มีการโพสต์ในโซเชียลว่า มีผู้ที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ฉีดเป็นเข็มที่ 4 โดยกรมควบคุมโรคได้ตรวจสอบข้อมูลในระบบบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุข (MOPH IC : MOPH Immunization Center) พบเป็นบุคลากรทางการแพทย์

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ชี้แจงว่า หนังสือรับรองดังกล่าวเป็นของแพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ได้รับวัคซีนเข็ม 1 เป็นซิโนแวค และเข็ม 2 เป็นซิโนแวค เมื่อวันที่ 18 เม.ย. จากนั้นวันที่ 17 ก.ค.ฉีดบูสเตอร์เข็ม 3 เป็นแอสตร้า แต่เนื่องจากมีภารกิจไปศึกษาต่อต่างประเทศ ทางโรงพยาบาลรามาธิบดีได้ทำหนังสือส่งตัวมาขอรับคำปรึกษาและรับวัคซีนเพิ่ม เนื่องจากประเทศที่ไปศึกษาไม่รับรองซิโนแวค อีกทั้งประเทศปลายทางที่เดินทางไปรับรองไฟเซอร์ จึงต้องฉีดไฟเซอร์

กรณีนี้เป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่กำลังจะเดินทางไปปฏิบัติงานที่ประเทศแคนาดา โดยประเทศแคนาดามีระเบียบว่าจะต้องได้รับวัคซีนที่แคนาดากำหนดคือ แอสตร้าเซนเนก้า, ไฟเซอร์, โมเดอร์นา, จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และโควิดชิลด์ พร้อมกับแสดงผลตรวจหาเชื้อโควิดก่อนเข้าประเทศเป็นลบ จึงสามารถเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน

รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรณีนี้จึงอยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ภายหลังได้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าแล้ว ดังนั้น การรับวัคซีนไฟเซอร์ของบุคลากรทางการแพทย์รายนี้ที่กำลังจะเดินทางไปปฏิบัติงานในประเทศแคนาดาเป็นไปตามเงื่อนไขของการเข้าประเทศที่ประเทศปลายทางระบุ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2564 หน่วยงานสาธารณสุขของแคนาดา (The Public Health Agency of Canada) แนะนำว่าผู้คนในประเทศแคนาดาที่รับวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า สามารถรับวัคซีนไขว้เป็นชนิด mRNA ได้แก่ ไฟเซอร์ หรือ โมเดอร์นา เพื่อประโยชน์ในการป้องกันโควิด