‘อนุทิน’ ย้ำ ไม่ประกาศถอดหน้ากาก ให้ประชาชนตัดสินใจเอง หากประกาศเป็นโรคประจำถิ่น

อนุทิน เผย สธ.จะไม่ออกประกาศถอดหน้ากาก แม้จะเปลี่ยนให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น พร้อมระบุ จะใส่หรือถอด อยู่ที่ประชาชนจะประเมินสถานการณ์แล้วตัดสินใจเอง

วันนี้ (8 มิ.ย.65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวในงาน Move on จาก Covid ใช้ชีวิตแบบมั่นใจ ว่า ตอนนี้สถานการณ์โควิดในไทยมีแนวโน้มดีขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตลดลงต่อเนื่อง ผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่ำกว่า 3,000 รายต่อวัน ผู้เสียชีวิตต่ำกว่า 30 รายต่อวัน มาเป็นเวลา 3 สัปดาห์ เพราะประชาชนให้ความร่วมมือในการป้องกันตัวเอง และวันนี้เป็นเวลาที่ สธ. สื่อสารให้ประชาชนเตรียมความพร้อมในการปรับวิถีชีวิตไปสู่การเป็นโรคประจำถิ่น

นายอนุทิน กล่าวว่า โรคประจำถิ่นไม่ได้หมายความว่าความรุนแรงของโรคจะลดลง แต่จะเป็นโรคที่จะต้องอยู่กับเรา และเราจะต้องอยู่กับมันในทุกช่วงของชีวิต แต่การเป็นโรคประจำถิ่นจะทำให้เกิดความคุ้นชิน มีความเข้าใจในการปฏิบัติตนให้เกิดความปลอดภัย แม้ตอนนี้ยังมีประชาชนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนซึ่งเป็นปัญหาที่กระทรวงสาธารณสุขกำลังเร่งรณรงค์และดำเนินการต่อไป

“เรามีความพยายามที่จะคืนความเป็นปกติสุขให้กับประชาชนมากที่สุด มีการถอดหน้ากาก ใช้ชีวิตอย่างปกติ เปิดทุกอย่าง ไม่มีข้อจำกัดใดๆ ซึ่งเป็นเป้าหมาย แต่ว่าเราต้องใช้ความเข้าใจของสถานการณ์แต่ละคนด้วย ถ้าอยู่ในสถานที่ที่มีความเสี่ยง เราก็สามารถนำหน้ากากมาใส่ได้ แต่ที่บอกว่าต้องมีกฎต้องมีประกาศให้ถอดหน้ากากคงไม่มีประกาศเช่นนั้น จะใส่ก็ใส่ จะถอดก็ถอด ประเมินสถานการณ์กันด้วยความรู้ความเข้าใจที่เราประสบกันมา” นายอนุทิน กล่าว

⚫️ ย้ำวัคซีนไม่ใช่ขยะ แต่เป็นทองคำ

นายอนุทิน ระบุอีกว่า การที่มาถึงจุดนี้ได้เพราะเราได้รับวัคซีนกันอย่างถ้วนหน้า ซึ่งไทยได้ฉีดวัคซีนตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก ซึ่งทำให้เกิดภูมิคุ้มกันกระจายอย่างกว้างขวาง ซึ่งวัคซีนทุกชนิดมีประโยชน์ มีฤทธิ์ในการป้องกันโรคในแต่ละช่วงเวลา

“กระทรวงสาธารณสุขได้จัดวัคซีนให้มีความเพียงพอกับคนไทยทุกคน ไม่ใช่วัคซีนเหลือวัคซีนเกิน บางคนไปพูดหนักมาเป็นขยะ เอาขยะในบ้านไปไว้นอกบ้าน เรียนว่าไม่ใช่ขยะในบ้านไปไว้นอกบ้าน มันคือทองคำเป็นสิ่งที่มีค่าเอาไปไว้ในเครือข่ายเพื่อบริการกับประชาชน ไม่มีใครปัญญาอ่อนพอที่จะเอาวัคซีนไปทิ้ง วัคซีนเป็นสิ่งที่มีค่า เป็นของที่ควรจะอยู่ในร่างกายของประชาชนเพื่อให้เขามีความปลอดภัยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ขยะไม่สามารถบันดาลให้เกิดสิ่งดีๆ เหล่านี้กับมนุษย์ได้” นายอนุทิน กล่าว