พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 188 ราย ยอดสะสม 599 ราย

กระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่ม 188 ราย รวมผู้ป่วยสะสมในไทย 599 ราย ซึ่งพบว่า 108 ยังไม่ทราบว่าติดจากใครเพราะยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ขอประชาชนที่หยุดงานงดเดินทางออกต่างจังหวัดเพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อและแพร่กระจายเชื้อ

วันที่ 23 มี.ค. 63 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข แถลงสรุปจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 พบว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ 188 ราย รวมสะสม 599 ราย รักษาหายกลับบ้านรวม 45 ราย กำลังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 553 ราย อาการหนักใส่เครื่องช่วยหายใจ 7 ราย เสียชีวิต 1 ราย

สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 188 ราย แบ่งเป็น 3 กลุ่มดังนี้

1. กลุ่มติดตามผู้ป่วยก่อนหน้า 65 ราย

– สนามมวย 21 ราย

– สถานบันเทิงย่านทองหล่อ 5 ราย

– ผู้เข้าร่วมพิธีศาสนาที่ประเทศมาเลเซีย 2 ราย

– สัมผัสก่อนหน้า 37 ราย

2. กลุ่มใหม่ 15 ราย

– กลับจากต่างประเทศ 8 ราย (มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ)

– คนทำงานใกล้ชิดนักท่องเที่ยว 7 ราย

3. รอสอบสวนโรค 108 ราย

นพ.ทวีศิลป์ ระบุว่า ผู้ป่วยที่พบเพิ่มล่าสุดส่วนใหญ่เป็นวัยหนุ่มสาวและวัยทำงาน ซึ่งมีอาการเล็กน้อยเท่านั้น และไปทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น ทำให้เกิดการติดเชื้อแพร่กระจาย เช่น กรณีสถานบันเทิง สนามมวย เป็นต้น ที่สำคัญคือการที่รัฐบาลได้สั่งปิดสถานที่ต่าง ๆ เพื่อให้หยุดการเคลื่อนย้าย จึงขอร้องให้หยุดอยู่กับบ้าน งดเดินทางกลับภูมิลำเนาเด็ดขาด เพื่อลดโอกาสการแพร่ระบาดไปในต่างจังหวัด เพราะมีเด็กและผู้สูงอายุที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย

ด้าน นพ.ชิโนรส ลี้สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า มาตรการระยะห่างทางสังคม “อยู่ห่างไว้ ไม่แพร่เชื้อ เพื่อทุกคน” ต้องอยู่ห่างกันอย่างน้อย 1-2 เมตร มาตรการนี้จะไม่ได้ผลหากไม่ใช้ร่วมกับมาตรการหยุดเดินทาง พร้อมบอกว่า สถานการณ์ใน กทม. ตอนนี้ ไม่ต่างจากญี่ปุ่นเมื่อเดือนที่แล้ว ที่ออกประกาศเตือนว่าไม่ให้ไป การระบาดใน กทม. ก็ควรจะต้องจำกัดการเดินทาง ไม่ควรออกไปต่างจังหวัด ผู้ที่อยู่ต่างจังหวัดก็ไม่ควรเข้ามาใน กทม. เพราะในระหว่างที่เดินทางออกไป เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าคนที่โดยสารไปด้วยป่วยหรือไม่ ก็เสี่ยงต่อการรับเชื้อ แต่ถ้าเรามีเชื้ออยู่และไม่รู้ตัว เราก็อาจจะกลายเป็นคนแพร่เชื้อเอง ที่สำคัญถ้าหากเกิดป่วยหนักถึงขั้นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ โรงพยาบาลต่างจังหวัดอาจไม่พร้อมเท่ากับใน กทม. ที่มีความพร้อมด้านการรักษาโอกาสในการหายย่อมมากกว่า

นพ.บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัย ระบุว่า ตอนนี้เชื้อขายไปยังต่างจังหวัดแล้ว อยากเน้นย้ำให้ประชาชนรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลให้ดี สวมหน้ากาก ล้างมือ รักษาระยะห่าง ลดการสัมผัส ไม่จัดการสังสรรค์ งดการประชุม ออกจากบ้านให้น้อยลง เข้าห้างซื้ออาหารโดยเลือกเวลาที่คนน้อย เพื่อหยุดการแพร่กระจาย เพราะให้โรคกระจายช้าที่สุด เพื่อความพร้อมในทางการแพทย์ หมอ ยารักษา วัคซีนป้องกัน

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรค ระบุว่า ตอนนี้จำนวนการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยในต่างจังหวัด เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ หากเราไม่หยุดเดินทาง กราฟต่างจังหวัดจะเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากการกระจายของประชาชนที่เดินทางมาสนามมวย ดังนั้นประชาชนใน กทม.ควรเลี่ยงเดินทางโดยเด็ดขาด

ส่วนกรณี แพรวา ณิชาภัทร นักแสดงนักร้อง ที่ติดโควิด-19 และยังไม่สามารถระบุได้ว่า ติดจากใครและสถานที่ไหน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า เวลานี้คนติดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทีมทำงานไม่ทัน จะเห็นว่าวันนี้มี 108 ราย ที่ยังรอการสอบสวนโรค การแถลงข่าวหลังจากนี้อาจจะชี้แจงในภาพกว้าง มากกว่าการระบุรายบุคคล เพราะจำนวนเพิ่มขึ้นมาก หรืออาจใช้การระบุว่าขีดวงว่า กทม. เป็นพื้นที่เสี่ยงทุกคนมีโอกาสเป็นผู้แพร่เชื้อเพื่อการเฝ้าระวัง นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือนายจ้าง ดูแลลูกจ้างช่วงปิดสถานบริการ หวั่นคนเดินทางออกต่างจังหวัดเพราะขาดรายได้

ด้าน นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ในเรื่องการรองรับของโรงพยาบาลกำลังดำเนินการอยู่ เพื่อให้พร้อมรับมือ ที่สำคัญตอนนี้ต้องลดความแออัดที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาล เลื่อนการนัดหมาย การผ่าตัดผู้ป่วยกรณีที่ไม่เร่งด่วนออกไปก่อน เพราะการเดินทางมาโรงพยาบาลเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการรับและแพร่กระจายเชื้อ ส่วนคนที่สงสัยว่าจะติดเชื้อและต้องการตรวจขอให้มีอาการเสี่ยงที่ชัดเจน คือ มีไข้ ไอ เจ็บคอ ใกล้ชิดผู้ป่วย หรือเดินทางกลับจากต่างประเทศ แต่หากใครไม่ได้มีอาการแบบนี้ไม่แนะนำให้ตรวจ