ศบค. ห่วง 5 คลัสเตอร์ กทม. ยัน ยังไม่ผ่อนมาตรการใส่แมสก์

วันที่ 16 พ.ค. 2564 แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงรายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยมีรายละเอียดดังนี้ ติดเชื้อในประเทศ 2,279 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย รักษาหายเพิ่มขึ้น 2,136 ราย กลับบ้านแล้ว 65,803 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัว 35,055 ราย แบ่งเป็นในโรงพยาบาล 21,462 ราย และโรงพยาบาลสนาม 13,593 ราย ในจำนวนนี้มีอาการหนัก (ปอดอักเสบ) 1,228 ราย ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 408 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 24 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 589 ราย ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 101,447 ราย นับเป็นรายที่ 99,146 – 101,447 ประเทศไทยเป็นอันดับที่ 92 ของโลก

สำหรับผู้ติดเชื้อ 2,302 รายใหม่ แบ่งเป็น ผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,692 ราย ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 587 ราย ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 23 ราย

แพทย์หญิงอภิสมัย กล่าวด้วยว่า ที่ประชุม ศบค. มีการพูดคุยกันในกรณี ต้องเข้มงวดญาติของผู้ป่วยที่มาเฝ้าไข้ เนื่องจาก พบว่า มีกรณีเฝ้าไข้และมีการรับประทานอาหารร่วมกันทำให้มีความเสี่ยง และพบว่าเชื้อได้แพร่กระจายในสถานพยาบาลที่ญาติไปเฝ้าดูแลคนไข้ ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้มีความพยายามเข้าไปควบคุมเชื้อแพร่กระจายอยู่แล้ว ขณะที่เรื่องการจัดหาเตียงผู้ป่วยโควิด-19 ที่ประชุมมีความเป็นห่วงเตียงผู้ป่วยระดับสีแดง และสีเหลือง โดยเฉพาะเตียงสีแดงมีลักษณะตึงตัวอยู่ในขณะนี้

ส่วน 5 คลัสเตอร์ สำคัญที่มีการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ขณะนี้ยังมีรายงานพบผู้ติดเชื้อเพิ่มรายวัน เช่น แคมป์คนงานเขตหลักสี่, เขตดินแดง, เขตวัฒนา, เขตห้วยขวาง ที่ประชุมยังมีความเป็นห่วงกรณีแคมป์คนงานที่กระจายอยู่ทั่ว กทม. จึงได้มีการออกมาตรการห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานในแคมป์ หากจะเคลื่อนย้ายต้องขออนุญาตก่อน และมีการจัดสถานที่ดูแลผู้ติดเชื้ออย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 มีการจัดพื้นที่อยู่อาศัย มีการส่งอาหาร เครื่องอุปโภค บริโภคเข้าไป เน้นย้ำประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงให้ฉีดวัคซีน

สำหรับ ข้อเท็จจริง เรื่องการยกเลิกข้อกำหนดสวมหน้ากากอนามัย แพทย์หญิงอภิสมัย กล่าวยืนยันว่า ตอนนี้ยังไม่มีการยกเลิกแน่นอน โดยในระยะอันใกล้นี้หากมีการจัดประชุมระดับประเทศ และการประชุมระดับท้องถิ่น เราก็สนับสนุนให้ประชุมแบบออนไลน์ แต่หากจำเป็นต้องมีการจัดประชุมจริง ก็ให้ยึดข้อกำหนดที่ 22 สวมหน้ากาก 100% ตลอดเวลา

“โดยอาจมีการผ่อนผัน เฉพาะประธานในที่ประชุมอนุญาตให้เฉพาะการอภิปรายฯ ในสภาเท่านั้น ผ่อนผันเฉพาะผู้ที่ทำการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น ส่วนบุคคลอื่นที่อยู่ในที่ประชุมสภา จะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา โดยจะมีเจ้าหน้าที่ ดูแลอย่างเข้มงวด หากพบว่ามีการทำผิดจะตักเตือนก่อนครั้งแรก แต่หากพบว่ายังทำผิดอีกจึงดำเนินการตามกฎหมาย” ผู้ช่วย ศบค. กล่าว