กทม. แจ้งปรับไทม์ไลน์ ยึดตามใบสอบสวนโรคของผู้ติดเชื้อโควิด-19

โฆษก กทม.ยืนยัน ไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อ  ยึดตามใบ สอบสวนโรค จากโรงพยาบาลต้นทาง และทำการสอบสวนโรคเพิ่มเติม ส่วนไทม์ไลน์ของ นักร้อง-นักแสดง, ประชาสัมพันธ์ อยู่ระหว่างพิสูจน์ ว่าอยู่บ้านจริงหรือไม่ ย้ำเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลคนละรอบกัน

วันที่ 28 ม.ค. 2564 ร.ต.อ. พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร ระบุว่า  สถานการณ์ผู้ติดเชื้อ ในกทม. ตอนนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อลดลง ขณะที่การระบุถึงไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อ   สำหรับกรณีไทม์ไลน์ ผู้ติดเชื้อ รายที่ 647  อาชีพ นักร้อง นักแสดง  เป็นข้อมูลคนละชุดกับที่ทางเจ้าหน้าที่สอบสวนโรค สำนักอนามัย กทม. ได้รับในช่วงแรกซึ่งทาง กรุงเทพมหานครได้อัพเดทข้อมูลผู้ติดเชื้อรายดังกล่าว หลังทางที่ผู้ติดเชื้อให้สัมภาษณ์ทางทีวีเมื่อคืนที่ผ่านมา

ส่วนรายที่ 657 อาชีพ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ที่ออกมาเปิดเผยไทม์ไลน์ ในเวลาต่อมาทาง กรุงเทพมหานคร ยืนยันว่า รายนี้ ได้คนละชุดเช่นเดียวกัน และอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลไทม์ไลน์ เป็นจริงหรือไม่ ถ้าพบว่าไม่จริง ก็จะดำเนินคดีทางกฎหมาย โดยเจ้าพนักงานควบคุมโรค

ยืนยันการสอบสวนโรคของเจ้าหน้าที่ กทม.จะโทรไปสอบถามเพียง 1 คน และยึดข้อมูลจากใบโนเวลหรือใบสอบสวนโรคของแพทย์จากโรงพยาบาลต้นทางที่ผู้ติดเชื้อไปรักษาในช่วงแรก

ส่วนข้อมูลผู้ติดเชื้อ 645 อาชีพเชฟร้านอาหาร ที่มีการปรับแก้ไทม์ไลน์จากเดิมในไทม์ไลน์ ที่ผู้ป่วยไม่ให้ข้อมูลในช่วงวันที่ 17-18 ม.ค. 2564  จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนโรคเพิ่มเติมอีกครั้งจึงได้รับแจ้งว่า อยู่บ้านทั้งวัน ในเขตภาษีเจริญ ซึ่ง กทม. ได้ทำการตรวจสอบ ข้อเท็จจริงของไทม์ไลน์นี้พบว่าเป็นจริง

ส่วนการที่โรงแรมมีการปล่อยให้จัดปาร์ตี้ ก็จะมีการตรวจกล้องวงจรปิดของโรงแรม เพื่อหาข้อเท็จจริงและเอาผิดตามกฎหมาย ในกรณีที่มีการปล่อยให้จัดปาร์ตี้จนมีการติดเชื้อ

สำหรับขั้นตอนการสอบสวนโรค

จะเริ่มจากข้อมูลจากใบโนเวล ของโรงพยาบาล ที่ทางบุคลกรทางการแพทย์จะเป็นผู้สอบถาม ซักประวัติต่างๆ จากนั้นจะส่งให้ กรมควบคุมโรค และ กทม. (โดยสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร จะสรุปเป็นเอกสาร ) จากนั้นจะผ่านเข้าสู่ ขบวนการพิจารณาการเผยแพร่ที่มีการจัดตั้งคณะกรรมการฯ ขึ้นมา 1 ชุด โดยมีแพทย์และนักกฎหมาย

ในการพิจาณราข้อมูล ที่อาจจะละเมิดสิทธิ์ได้ หรือส่วนไหนที่สามารุเผยแพร่ได้ จากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการเผยแพร่

สำหรับข้อมูลผู้ติดเชื้อ ที่สามารถเผยแพร่ได้ คือ ในส่วนที่ผู้ติดเชื้อ ไปพื้นที่สาธารณะ ใดบ้าง  แต่ที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ คือ การที่ระบุถึงตัวตน แล้วข้อมูลส่วน ความสัมพันธ์ที่ผ่านมาพบว่า ผู้ติดเชื้อหลายราย ไม่ให้ข้อมูลที่ครบถ้วนในช่วงแรก