SHARE

คัดลอกแล้ว

สธ. แจงรายละเอียดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้ง 10 ราย ลักลอบผ่านแดนมาจากเมียนมา พบประวัติทั้งหมดมีต้นทางมาจากสถานบันเทิงแห่งเดียวกันใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา

วันที่ 3 ธ.ค. 2563 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์ใน ผู้ติดเชื้อลักลอบผ่านแดนจากประเทศเมียนมาเข้าประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. 2563 – 1 ธ.ค. 2563 มีจำนวน 10 ราย อยู่ที่ จ.เชียงใหม่ 3 ราย, จ.เชียงราย 3 ราย และ 1 ราย ใน จ.พะเยา, พิจิตร, กรุงเทพฯ และ ราชบุรี

ผู้ติดเชื้อทั้ง 10 ราย เป็นหญิงไทย ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากโรงแรม 1G1 จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา แต่สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไม่ดี จึงเดินทางผ่านช่องทางธรรมชาติเข้ามายังประเทศไทย ใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยการลักลอบเข้าเมือง ถือว่า มีโทษรุนแรง ซึ่งผู้ติดเชื้อได้เดินทางไปจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศไทย โดยส่วนใหญ่จะเดินทางไปเที่ยวและกลับไปอยู่ที่บ้านหรือที่พักเดิม จากนั้นเริ่มมีอาการป่วย ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะตรวจพบผู้ติดเชื้อทั้ง 10 ราย

ขณะที่มีผู้สัมผัสทุกกลุ่ม 699 ราย แบ่งเป็นกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูง 175 ราย และกลุ่มความเสี่ยงต่ำ 524 ราย  โดยผลการตรวจขณะนี้ยังไม่พบเชื้อเพิ่มเติม  ส่วนการแบ่งประเภทความเสี่ยงนั้นขึ้นแต่ละบุคคล หากผู้ติดเชื้อใส่หน้ากากอนามัยฯ ความเสี่ยงที่จะแพร่ไปยังผู้อื่นจะน้อยลง  รวมถึงหากผู้สัมผัส ใส่หน้ากากอนามัยฯด้วย ความเสี่ยงก็จะลดลงไปอีก  แต่หากไม่ใส่หน้ากากอนามัยฯ เกิน5 นาที ถือว่า ความเสี่ยงสูง  และหากอยู่ในสถานที่แออัด เกิน15 นาที ถือว่ามีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน

ส่วนบนเครื่องบิน ซึ่งมีมาตรการให้ใส่หน้ากากอนามัยทุกคนอยู่แล้ว  ความเสี่ยงจะต่ำ  แต่หากไม่ใส่หน้ากากอนามัยฯ ความเสี่ยงรอบข้างจะอยู่ที่ 2 แถวหน้า กับ  2 แถวหลัง โดย เที่ยวบินในประเทศส่วนใหญ่เวลาเดินทางไม่ยาว  ยกเว้น การรับประทานอาหาร กับน้ำ ที่ไม่ใส่หน้ากากอนามัยฯเท่านั้น

ซึ่งจากการสรุป ข้อที่ค้นพบกับผู้ติดเชื้อทั้ง 10 ราย และประเด็นสำคัญต่างๆ พบว่า

1.พบการติดเชื้อจากประเทศเมียนมา ซึ่งมีความสัมพันธ์กับสถานบันเทิง

2.เดินทางผ่านช่องทางธรรมชาติ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยผิดกฎหมาย

3.เดินทางไปทั่วประเทศไทย เช่น เชียงราย, เชียงใหม่, พะเยา, กทม., พิจิตร, ราชบุรี ฯลฯ

  • -การลงทะเบียนผู้โดยสารระบบขนส่งยานพาหนะ รถระยะสั้นไม่มีการลงทะเบียน
  • -การทำความสะอาดหลังจากถึงที่หมายทุกครั้ง ไม่สม่ำเสมอ

4.ผู้ป่วยเข้าไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน หรือ เอกชน เนื่องจากลักลอบผ่านแดน ทำให้ไม่กล้าเข้าตรวจที่โรงพยาบาล

5.อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาดระยะต่อไป

  • -ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการ
  • -ผู้ป่วยอาจปกปิดข้อมูล การสอบสวนอาจต้องใช้กลวิธีที่หลากหลาย
  • -มาตรการป้องกันควบคุมโรคไม่เข้มข้น ได้แก่ ไม่มีการลงทะเบียนโดยใช้แอพลิเคชั่นไทยชนะ
  • -มาตรการป้องกันส่วนบุคคลลดลง ได้แก่ การสวมหน้ากากอนามัย การใช้เจลล้างมือ ทำความสะอาดพื้นผิว จัดระบบระบายอากาศ

ทั้งนี้ หากประชาชน ที่ตกค้างอยู่ในจ.ท่าขี้เหล็ก  ขอให้ประชาชนประสานเจ้าหน้าที่เพื่อที่จะผลักดันให้เข้าช่องทางปกติ

โดยขอให้ประชาชน อย่าตื่นตระหนก  เน้นย้ำ ให้ใส่หน้ากากอนามัยฯเมื่อต้องออกไปทำกิจกรรมภายนอก  และแสกนระบบไทยชนทุกครั้ง จากการสอบสวนโรคครั้งนี้ ถือว่า ระบบไทยชนะมีประโยชน์อย่างมาก ทำให้สามารถค้นหาผู้สัมผัสได้อย่างรวดเร็ว เช่น ประชาชน ที่เช็คอิน เช็คเอาท์ ผ่านระบบ ในช่วงเวลาเดียวกันกับผู้ติดเชื้อหญิง อายุ 29 ปี จ.เชียงใหม่

ย้ำทุกพื้นที่ในประเทศไทยปลอดภัย หากไม่ได้อยู่ในไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อ ก็ไม่มีความเสี่ยง

สำหรับงาน ฟาร์มเฟสติวัล เชียงราย กระทรวงสาธารณสุขได้อธิบายจุดที่ หญิงป่วยโควิด-19 โดย 19.30 น. ซื้อตั๋วลาน C ต่อมา 19.38 น. ถึงจุดตรวจอาวุธ ก่อนที่ 19.41 น. ถึง 19.45 น. เข้าป่าหลังห้องน้ำบ้านแดง และ 19.48 น. เข้างานทางประตูฟาร์มเฟส รวมไปถึงจุดนั่งภายในงาน บริเวณโซน C ประมาณแถวที่ 8 โต๊ะที่ 1-8 (โต๊ะสีเหลือง)

ขณะที่ ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 (COVID-19) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 3 ธ.ค. 2563 ดังนี้

  • – พบผู้ติดเชื้อใหม่ 13 คน ยอดสะสม 4,039 คน
    – หายป่วยแล้วเพิ่มขึ้น 10 คน ยอดสะสม 3,832 คน
    – ผู้ป่วยที่ยังรักษาตัวในรพ. เพิ่มขึ้น 3 คน ยอดสะสมอยู่ที่ 147 คน
    – ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยอดสะสมที่ 60 คน

สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ 13 คน ประกอบด้วย

  • 1. จากประเทศอินเดีย 1 คน
    – นักปิโตรเคมีชาย สัญชาติอินเดีย อายุ 35 ปี เข้าพัก Alternative State Quarantine กรุงเทพฯ
  • 2. จากสหรัฐอเมริกา 1 คน
    – พนักงานร้านอาหารหญิงไทย อายุ 31 ปี เข้าพัก State Quarantine กรุงเทพฯ
  • 3. จากประเทศเม็กซิโก 1 คน
    – ช่างเย็บผ้าหญิงไทย อายุ 46 ปี เข้าพัก State Quarantine จ.ชลบุรี
  • 4. จากประเทศสวีเดน 1 คน
    – แพทย์หญิง สัญชาติอียิปต์ อายุ 32 ปี เข้าพัก Alternative Hospital Quarantine กรุงเทพฯ
  • 5. จากประเทศปากีสถาน 1 คน
    – พนักงานบริษัทชาย สัญชาติปากีสถาน อายุ 37 ปี เข้าพัก Alternative State Quarantine จ.สมุทรปราการ
  • 6. จากประเทศเนเธอร์แลนด์ 2 คน
    – หญิงไทย อายุ 42 ปี เข้าพัก Alternative State Quarantine กรุงเทพฯ
    – หญิงไทย อายุ 49 ปี เข้าพัก State Quarantine จ.ชลบุรี

7. จากประเทศเมียนมา 6 คน เดินทางผ่านช่องทางธรรมชาติที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย
– พนักงานสถานบันเทิงหญิงไทย อายุ 23 และ 25 ปี เข้ารับการรักษา โรงพยาบาลนครพิงค์
– พนักงานสถานบันเทิงหญิงไทย อายุ 26 ปี เข้ารับการรักษา โรงพยาบาลพะเยา
– หญิงไทย อายุ 36 ปี เข้ารับการรักษา โรงพยาบาลราชบุรี
– หญิงไทย อายุ 25 ปี เข้าพัก Local Quarantine จ.พิจิตร
– หญิงไทย อายุ 21 ปี เข้ารับการรักษา โรงพยาบาลเอกชน กรุงเทพฯ

สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 โลก ณ เวลา 09.00 น.

  • ยอดผู้ติดเชื้อรวม 64,834,951 ราย
    รักษาหายแล้ว 44,934,851 ราย
    เสียชีวิต 1,499,175 ราย

อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด

  • 1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 14,313,941 ราย
    2. อินเดีย จำนวน 9,533,471 ราย
    3. บราซิล จำนวน 6,436,650 ราย
    4. รัสเซีย จำนวน 2,347,401 ราย
    5. ฝรั่งเศส จำนวน 2,244,635 ราย

ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 151 จำนวน 4,039 ราย

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า