สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในไทยวันนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ 1 ราย กลับจากสิงคโปร์ ล่าสุดยอดติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 3,390 ราย ขณะที่ยังไม่มีพบผู้ติดเชื้อภายในประเทศ ขณะที่ ศบค. ชุดใหญ่ต่อ พรก.ฉุกเฉินเพิ่มอีก 1 เดือน
วันที่ 21 ส.ค. 2563 นายแพทย์ทวีศิลป๋ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานว่าวันนี้รายงานผู้ป่วยรายใหม่เป็น 1 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,390 คน แบ่งเป็นติดเชื้อภายในประเทศ 2,444 คน สถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ 453 คน, รักษาหายเพิ่ม 1 คน รวมสะสม 3,219 คน, กำลังรักษา รวมสะสม 113 คน และไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ประเทศไทยไม่มีการติดเชื้อในประเทศต่อเนื่อง
รายละเอียดผู้ป่วยใหม่ 1 คน
– กลับจากสิงคโปร์ เป็นชายไทย อายุ 56 ปี อาชีพพนักงานบริษัทและโรงงาน เดินทางถึงไทยวันที่ 7 ส.ค. 2563 (เที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยที่ยืนยันก่อนหน้านี้ 3 คน) เข้าพักที่ State Quarantine จ.ชลบุรี และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 วันที่ 18 ส.ค. 2563 ผลพบติดเชื้อโควิด-19 ไม่มีอาการ
ขณะที่การประชุม ศบค. ชุดใหญ่ มีมติขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ออกไปอีก 1 เดือน (1 – 30 กันยายน 2563)
เนื่องจาก ต้องอาศัยอำนาจตามกฎหมายในเชิงป้องกัน อาทิ การควบคุมการเดินทางเข้าออกราชอาณาจักร การจัดทำระบบติดตามตัว การบังคับใช้มาตรการควบคุมโรคที่ครอบคลุมทุกกิจการกิจกรรม
รวมถึงจำเป็นต้องมีระบบการบริหารจัดการในภาวะวิกฤตที่ปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็วและเป็นเอกภาพ สามารถบูรณาการกำลังพลเรือน ตำรวจ ทหารร่วมปฏิบัติงานได้อย่างเพียงพอตามภารกิจเพื่อเตรียมความพร้อมช่วงการวิจัยและพัฒนาวัคซีน ยืนยันไม่มีผลต่อการชุมนุม
นอกจากนี้ ยังประกาศผ่อนคลาย 3 กิจกรรม/กิจการ ที่ได้ทดลองผ่อนคลายมาก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 2563 ได้เเก่
- เปิดโรงเรียน มหาวิทยาลัย และสถาบันต่างๆ ตามปกติ
- เปิดการแข่งขันกีฬาแบบมีผู้ชม
- เปิดให้ขนส่งสาธารณะทั้งทางบกและน้ำ มีผู้โดยสารเต็มความจุตามมาตรฐาน
สถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม 2563 เวลา 10.00 น.
- ยอดผู้ติดเชื้อรวม 22,859,239 ราย
- อาการรุนแรง 61,836 ราย
- รักษาหายแล้ว 15,513,997 ราย
- เสียชีวิต 797,009 ราย
อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด
- สหรัฐอเมริกา จำนวน 5,746,272 ราย
- บราซิล จำนวน 3,505,097 ราย
- อินเดีย จำนวน 2,904,329 ราย
- รัสเซีย จำนวน 942,106 ราย
- แอฟริกาใต้ จำนวน 599,940 ราย
ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 115 จำนวน 3,390 ราย