เปิดประเทศ 21 วัน นักท่องเที่ยวติดเชื้อ 112 คน ศบค. เผยมี นทท. ไม่ใส่หน้ากากอนามัยและรวมกลุ่มสังสรรค์

เปิดประเทศ 21 วัน นักท่องเที่ยวติดเชื้อ 112 คน ศบค. เผยมีรายงานกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้ามาประชุมธุรกิจปฏิเสธการสวมหน้ากากอนามัยและมีการรวมกลุ่มสังสรรค์ตามร้านอาหาร

วันที่ 22 พ.ย. 2564 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่าในส่วนของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศ 21 วัน รวม 85,608 คน มีผลบวกติดเชื้อ 112 คน หรือ 0.13% สะท้อนให้เห็นว่า นักท่องเที่ยวจะต้องมีการตรวจ RT-PCR ก่อนขึ้นเครื่อง 72 ชั่วโมง แต่เชื้ออาจจะยังไม่มากพอ จึงไม่พบเชื้อ และมาตรวจพบเชื้อที่บ้านเรา

พญ.อภิสมัย กล่าวต่อว่า ในที่ประชุมวันนี้มีจังหวัดนำร่องท่องเที่ยวเข้าประชุมร่วมกับ ศบค. ชุดเล็กด้วย และมีการรายงานข้อขัดข้องในการดำเนินงานเปิดประเทศ  อันดับแรก พบว่า นักท่องเที่ยวบางรายไม่ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขของประเทศไทย 

ที่ได้รับรายงานวันนี้เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติหลายๆ ประเทศที่เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมทางธุรกิจ เข้าทางโครงการ SandBox หลักๆ คือปฏิเสธการสวมหน้ากากอนามัย และไม่ปฏิบัติตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุข เช่น การรวมกลุ่มสังสรรค์ตามร้านอาหาร นำไปสู่การติดเชื้อ ต้องขอบคุณไปยังโรงแรม สถานประกอบการ ที่เป็นตัวแทนประเทศไทยคอยสังเกตนักท่องเที่ยวที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการ ซึ่งมีการตักเตือนนักท่องเที่ยวในเบื้องต้นแล้ว 

ทั้งนี้ต้องเรียนว่าภายใต้ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ ในประเทศไทย การไม่สวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ รวมถึงการรวมกลุ่มทำกิจกรรมร่วมกันถือว่ามีความผิด มีโทษปรับสูงสุด 2 หมื่นบาท 

พญ.อภิสมัย  กล่าวว่าในขณะเดียวกันมีโรงแรมต่างๆ ร่วมมืออย่างดี แต่ยังมีบางโรงแรมเอาเปรียบ หลอกลวงนักท่องเที่ยว ซึ่งก่อนที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาไทยต้องผ่านเงื่อนไทยแลนด์พลัสก่อนและที่สำคัญกรณีเทสแอนด์โกต้องมีรถรับส่งจากสนามบินตรงเข้าที่พัก ไม่ให้แวะที่อื่น และต้องมีการตรวจRT- PCR ทันที

กรณีนี้พบว่ามีนักท่องเที่ยวจองที่พักผ่านแอปพลิเกชั่น แต่ไม่มีการซื้อแพ็กเกจรถรับส่งสนามบิน และการตรวจ RT- PCR  ซึ่งรองอธิบดีกรมการกงศุลชี้แจง ว่าขอความร่วมมือเว็บจองห้องพักไปแล้วว่าถ้า นักท่องเที่ยวทำไม่ครบถ้วน จะไม่มีสิทธิเข้าราชอาณาจักรไทย

แต่พบว่ามีนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งได้รับอนุมัติด้วยคิวอาโค้ด  เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยแล้วจึงพบความไม่สะดวก  ที่พบคือบางโรงแรมจัดแพ็กเกจจริง แต่ให้นักท่องเที่ยวเลือกแพ็กเกจที่ไม่รวมการเดินทางได้ และให้ไปหาตรวจRT- PCR เอง ถือว่ามีเจตนาหลอกลวงนักท่องเที่ยว ทำให้ประเทศเสียชื่อเสียง และมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นของประเทศ และเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด

ที่สำคัญ เมื่อนักท่องเที่ยวได้รับการยืนยันว่าจะต้องเข้าพักในโรงแรมชาพลัส และต้องมีแพ็กเกจรถรับส่งและการตรวจ  RT- PCR  ทำให้ต้องยกเลิกโรงแรมที่จองมาก่อนล่วงหน้า แต่ทางโรงแรมก็ยืนยันว่าไม่คืนเงินนักท่องเที่ยว จึงขอความร่วมมือภาคเอกชน และโรงแรมว่าทำให้ถูกต้องไปในทิศทางเดียวกัน