กรมวิทย์ฯ สุ่มตรวจ 2.7 หมื่นตัวอย่างใน 12 เขตสุขภาพทั่วประเทศ เบื้องต้นพบประมาณ 1% มีภูมิคุ้มกันเกิดขึ้นโดยยังไม่ได้ฉีดวัคซีน และไม่มีรายงานการตรวจเชื้อ เท่ากับ “ติดเชื้อไม่รู้ตัว”
วันที่ 2 ธ.ค. 2564 นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยผลการสุ่มตรวจภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิด-19 ของคนไทยในภาพรวมว่า จากการสุ่มตรวจตัวอย่าง 27,000 ตัวอย่าง กระจายใน 12 เขตสุขภาพทั่วประเทศ โดยเลือกคนที่จะมาฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 1 เพราะเป็นกลุ่มที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน และคนที่ไม่เคยมีการรายงานตรวจพบว่าติดโควิด-19 มาก่อน แล้วนำมาเจาะเลือด
ซึ่งจากที่ประเทศไทยมีรายงานยืนยันผู้ติดเชื้อประมาณ 2 ล้านคนจากประชากรราว 66 ล้านคน หรือคิดเป็นอัตราติดเชื้อราว 2 % กว่า ผลเบื้องต้นพบว่ามีอีกประมาณ 1 % ที่มีภูมิคุ้มกันเกิดขึ้นโดยที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน และไม่มีรายงานการตรวจติดเชื้อมาก่อน เท่ากับว่าเป็นคนที่เคยติดเชื้อแบบไม่รู้ตัว เนื่องจากการมีภูมิคุ้มกันเกิดขึ้นได้ 2 แบบ คือ ติดเชื้อหรือฉีดวัคซีน โดยข้อมูลรายเขตจะแถลงอีกครั้งในวันที่ 3 ธ.ค. 2564 เท่ากับว่าประเทศไทยน่าจะมีผู้ติดเชื้ออยู่ที่ราว 3 %กว่า
นพ.ศุภกิจกล่าว กล่าวต่อว่า ข้อมูลนี้แสดงว่าประเทศไทยมีกลุ่มคนที่มีภูมิคุ้มกันเกิดขึ้น โดยที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนและยังไม่มีประวัติติดโควิด-19 ในสัดส่วนที่ไม่มาก สะท้อนว่าคนที่ติดเชื้อแต่ไม่ได้เข้าสู่ระบบการตรวจยืนยันนั้นมีไม่มาก รวมถึงกลุ่มคนที่มีภูมิคุ้มกันเกิดขึ้นโดยที่ไม่ได้รับวัคซีนก็มีไม่มากเช่นกัน ดังนั้นประเทศไทยจำเป็นต้องเร่งฉีดวัคซีนในกลุ่มคนที่ยังเวอร์จิ้น คือ ไม่เคยฉีดวัคซีนและไม่มีประวัติรายงานติดเชื้อมาก่อน