ศบค.นัดประชุมใหญ่สัปดาห์นี้ ประเมินสถานการณ์หลังสงกรานต์ เตรียมรับเปิดเทอม ปรับแผนเข้าออกประเทศ
วันที่ 18 เม.ย. 2565 พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 ช่วงเทศกาลสงกรานต์จนถึงปัจจุบันในภาพรวมถือว่าได้รับความร่วมมือจากประชาชนและภาคเอกชนเป็นอย่างดี ในขณะที่ส่วนราชการต่างๆ ได้ทำหน้าที่อย่างแข็งขันตามนโยบายและข้อสั่งการต่างๆ ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้มอบไว้โดยให้ดูแลความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ตั้งแต่การเดินทาง การจัดกิจกรรมสงกรานต์ และการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์หลังสงกรานต์
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังมีความห่วงใย และขอเน้นย้ำขอความร่วมมือประชาชน ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และทุกภาคส่วน ขอให้ความสำคัญกับช่วง 7 วันหลังเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 18 – 24 เม.ย. ขอให้ทุกคนที่ได้ร่วมกิจกรรมและเดินทางในช่วงสงกรานต์ได้เฝ้าระวังสังเกตอาการตนเองและครอบครัว รักษาระยะห่าง หากไม่มั่นใจขอให้ตรวจ ATK ด้วยตนเองหรือขอเข้ารับการตรวจ ณ จุดบริการที่ทางราชการจัดตั้งขึ้น หากพบว่าติดเชื้อขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำที่กระทรวงสาธารณสุขได้ออกไว้ให้แล้วอย่างเคร่งครัด
มาตรการที่สำคัญที่จะช่วยป้องกันได้เป็นอย่างดีคือการร่วมมือกันบริหารจัดการให้มีการทำงานที่บ้าน หรือ Work from home ของทั้งส่วนราชการและภาคเอกชน ซึ่งจะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดอย่างได้ผล
พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า สำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับสถานการณ์ในระยะต่อไป คาดว่า ศบค.จะเรียกประชุมคณะกรรมการภายในสัปดาห์นี้เพื่อรับทราบและประเมินสถานการณ์ และพิจารณาแนวทางต่างๆ เพิ่มเติม นอกจากนี้จะได้มีการพิจารณาสิ่งที่ต้องเตรียมการสำหรับอนาคตที่ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการไว้คือ การเตรียมความพร้อมของการเปิดภาคเรียน และการปรับมาตรการการเข้าออกประเทศทั้งทางอากาศ ทางบก และทางน้ำ รวมทั้งมาตรการต่างๆ ในแต่ละพื้นที่ ให้สอดคล้องกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและรายได้ของประชาชน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ การประเมินสถานการณ์ในภาพรวม การประเมินความร่วมมือในการปรับตัวของประชาชนและผู้ประกอบการต่างๆ ในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค รวมทั้งการพิจารณาเงื่อนไขและความสอดคล้องที่จะนำไปสู่แผนการปรับโรคโควิด-19 ให้เป็นโรคประจำถิ่นในระยะยาวควบคู่ไปด้วย