Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว
วันที่ 31 มี.ค. นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบทบทวนมติเกี่ยวกับมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบจาก โควิด-19 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยในส่วนการลงทะเบียนเพื่อรับเงินชดเชยรายได้ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบหรือผู้ได้รับผลกระทบอื่นๆ เดือนละ 5 พันบาท 3 เดือน พบว่ามีผู้ลงทะเบียนผ่าน www.เราไม่ทิ้งกัน.com  ที่ยังไม่ได้ผ่านการตรวจสอบสิทธิจำนวนมากกว่าที่ประมาณการไว้
.
ซึ่งรวมทั้ง ผู้ประกันตนประกันสังคมตามมาตรา 39 มาตรา 40 ซึ่งมีจำนวนประมาณ 5 ล้านคน และกลุ่มผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จำนวน 70,676 คน ที่ไม่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานตามกฎหมายว่าด้วยประกันสังคม แต่เป็นลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ซึ่งจะมาเข้าเกณฑ์รับ 5 พันบาทด้วย
ดังนั้น ครม.มีมติขยายกลุ่มเป้าหมายผู้ได้รับสิทธิของมาตรการชดเชยรายได้จากเดิม 3 ล้านคน เป็น 9 ล้านคน โดยให้นำงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวนไม่เกิน 45,000 ล้านบาท ตามมติ ครม. 24 มี.ค. มาใช้ในการชดเชยรายได้ครั้งแรกในเดือนเมษายนไปพลางก่อน สำหรับในเดือนต่อๆ ไป กระทรวงการคลังจะได้เสนอ ครม.พิจารณาจัดหาแหล่งเงินที่เหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง
.
ทั้งนี้ นายลวรณ แสงสนิท โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า เมื่อตรวจสอบข้อมูล และคัดกรองว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนทั้ง 3 เกณฑ์แล้ว คือ 1.เป็นแรงงาน ลูกจ้าง หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ 2.ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม 3.ได้รับผลกระทบจากโควิด ไม่ว่าจะออกมากี่ล้านคน รัฐบาลจะดูแลและเยียวยาทุกคน
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าววันนี้ว่า จากจำนวนผู้ลงทะเบียนแล้วถึง 20 ล้านคน ไม่ได้หมายความว่าจะได้รับเงินเยียวยาทุกคน คนที่คุณสมบัติไม่ตรงตามที่กำหนดจะถูกคัดแยกออกไป และหากตรวจสอบพบภายหลังว่ามีการกรอกข้อมูลเท็จและรับเงิน 5 พันบาทไปแล้ว จะถูกเรียกเงินคืน
.
สำหรับผู้ที่ไม่ตรงกับกลุ่มที่รัฐบาลช่วยเหลือในรอบนี้ จะมีมาตรการช่วยเหลืออื่นมาดูแลเยียวยาเพิ่มเติมเท่าที่จะทำได้เพื่อลดผลกระทบของประชาชนให้มากที่สุด

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า