นายกฯ ให้เยียวยาทุกกลุ่มกระทบโควิด ขอประเมินตัวเลขละเอียดก่อนคลายล็อก

วันที่ 13 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) แถลงถึงการประชุม ศบค. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานว่า มีการรายงานมาตรการควบคุมโควิดที่มีผลต่อด้านเศรษฐกิจ และนายกรัฐมนตรีย้ำว่าให้หามาตรการเยียวยาให้ได้ทุกกลุ่ม โดยรับทราบรายงานว่าปัญหามีเยอะมาก แต่ให้พยายามแก้ไขให้ได้

ที่ประชุมยังหารือเรื่องการผ่อนคลายมาตรการที่ใช้ในขณะนี้ว่า จะเกิดขึ้นถ้าตัวเลขต่างๆ ดี แต่ต้องได้รับการประเมินจากกระทรวงสาธารณสุขก่อนว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ลดลง เรามั่นใจได้แล้วหรือยัง ซึ่งมีการเตรียมข้อมูลอยู่ ยอมรับว่ามาตรการต่างๆ มีผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะคนหาเช้ากินค่ำในเรื่องการประกอบอาชีพ
.
นพ.ทวีศิลป์ ตอบคำถามถึง การที่ภาคเอกชนบางแห่งผ่อนคลายมาตรการหลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงโดยให้พนักงานกลับไปทำงานว่า ยังไม่อยากให้ผ่อนคลายกันมากด้วยการเห็นตัวเลขแล้วทำตัวเหมือนปกติ เพราะแม้สถานการณ์เราดูแลภายในได้อย่างดี แต่ต่างประเทศสีแดงเต็มไปหมด แม้ผู้ติดเชื้อลดลงก็กลับมาเพิ่มอีก เราอยู่แวดล้อมในสถานการณ์ติดเชื้อ

เราเข้มแข็งช่วยกันจึงช่วยกันคุมได้ ซึ่งต้องทำ 90% ถึงลดตัวเลขได้ ถ้าลดการควบคุมลงมาเหลือ 70-80% ผู้ติดเชื้อจะกลับขึ้นมา ทุกคนจึงยังต้องช่วยกันและยาวเลยไปถึงต้นเดือนหน้า มีการพยากรณ์โรคนี้จะอยู่กับเรา 3-4 เดือน แต่ต่อไปอาจจะมีการผ่อนคลายบางจังหวัด ในบางพื้นที่ไม่พบผู้ติดเชื้ออาจจะเป็นไปได้ เพื่อให้ทำกิจกรรมทางสังคมได้ดีขึ้น โดยจะต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการวิชาการ ในคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อเป็นผู้วางมาตรการนี้ ต้องประเมินอย่างรอบด้าน ซึ่งจะทำให้ บางอาชีพ บางพื้นที่ บางกิจกรรม อาจจะมีการผ่อนคลายได้ในอนาคต
.
“ถ้าวันนี้ผ่อนคลาย ไม่ใช่เกิดผลพรุ่งนี้ แต่จะเกิดผลอีก 5-7 วันข้างหน้า โรคนี้เราเพิ่งเรียนรู้กัน เขาอยู่ในร่างกายเรา 3-5-7 วันถึงมีอาการ เพราะฉะนั้นการ์ดตกไม่ได้ ทุกท่านต้องร่วมมือร่วมใจกัน 90% ต่อไปเรื่อยๆ”