ที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร ศบค. เผย ‘อีวูเชลด์’ ป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าฯ กำลังจะมาไทย

ที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร ศบค. เผย ‘อีวูเชลด์’ ป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าฯ กำลังจะมาไทย

ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์ และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร ศบค. โพสต๋ผ่านเฟซบุ๊ก Warat Karuchit ระบุว่า “ข่าวดี! ยาป้องกันโควิดตัวใหม่ คุณภาพสูง ป้องกันโอมิครอนได้ กำลังจะมาไทยแล้ว”

วันนี้ ศบค. ชุดใหญ่ มีนโยบายให้เปลี่ยนวัคซีน AZ ในสัญญาที่เหลือ เป็น antibody แบบใหม่ ที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนวัคซีน ของบริษัท AZ ที่เพิ่งคิดค้นได้ และได้รับอนุมัติโดย US FDA แล้ว มีชื่อทางการค้าว่า Evusheld (อีวูเชลด์)
โดยจุดเด่นที่ดีมากๆของ Evusheld ก็คือ

1. สามารถใช้ได้ดีกับกลุ่มเสี่ยงสูงที่วัคซีนกระตุ้นภูมิไม่ขึ้น (เช่นคนแก่) ซึ่งอันนี้เป็นการฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปเข้าไปในตัวเลย

2. พิสูจน์แล้วว่าป้องกันความรุนแรงจาก Omicron ได้ทั้ง BA.1, 1.1 และ 2 (stealth) ที่กำลังมีปัญหาในขณะนี้ได้ดี

3. สามารถใช้ทั้งก่อนติดโควิด เป็นเหมือนวัคซีนแบบ passive (คือไม่ต้องให้ร่างกายกระตุ้นภูมิ แต่ฉีดภูมิให้ร่างกายเลย) หรือใช้หลังติดโควิดแล้วเป็นการรักษาก็ได้ ซึ่งภูมิที่เข้าไปจะไปหยุดการอักเสบได้

4. ความเสี่ยงต่อการเกิดอาการข้างเคียงต่ำมาก เพราะไม่ได้ฉีดไวรัสเข้าไปให้ร่างกายกระตุ้น แต่เป็น antibody สำเร็จรูปพร้อมใช้

5. ฉีดครั้งหนึ่งอยู่ได้นาน 6-12 เดือน (Long acting antibody – LAAB) ทำให้ปีหนึ่งฉีดแค่ครั้งเดียว ไม่เหมือนวัคซีนที่อาจต้องฉีด 3-4 ครั้งต่อปี

6. ราคาชุดละประมาณ $800 (ประมาณสองหมื่นเจ็ด) ซึ่งแม้ว่าจะแพงกว่าวัคซีนมาก (เพราะต้องไปผลิตภูมิในแล็บ ต้องใช้เทคโนโลยีเยอะกว่ามาก) แต่ก็ถือว่าถูกกว่า antibody แบบอื่น และรอบนี้ไทยไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม เพราะใช้วงเงินเดิมตามสัญญาวัคซีนแต่เปลี่ยนเป็น antibody ตัวนี้แทน

โดยเบื้องต้นทางกระทรวงสาธารณสุขได้เจรจากับบริษัท AZ แล้วคาดว่าจะสามารถดำเนินการนำเข้าได้ทันที เพื่อลดการเสียชีวิตของกลุ่มเสี่ยง โดยกลุ่มเป้าหมายที่จะฉีดให้คือกลุ่ม 608

(ส่วนตัวอยากให้เอกชนนำตัวนี้เข้ามาได้ด้วย หรือรัฐอาจเป็นผู้ประสานงานสั่งซื้อเผื่อเอกชนก็ได้ เพราะลูกๆจำนวนมากน่าจะอยากซื้อให้พ่อแม่ตัวเองฉีดแน่นอน รวมทั้งหลายๆคนก็น่าจะอยากฉีดตัวนี้เช่นกัน เพราะถ้าติดขึ้นมาอาจมีค่าใช้จ่ายมากกว่านี้ก็ได้)

ปล. ยาตัวนี้ รัฐจัดหาให้ฉีดฟรีสำหรับกลุ่มเสี่ยงนะครับ ท่านที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงที่ยังไม่ฉีด booster ไม่ต้องรอนะครับ ด้วยราคาที่แพงพอสมควร ไม่น่าจะสามารถให้ฉีดฟรีได้ทุกคนครับ

(เอกสารภาพ FB : Warat Karuchit)