รัฐมนตรีสาธารณสุขมีหน้าที่รับผิดชอบนโยบายด้านสาธารณสุขอย่างปฏิเสธไม่ได้ เพราะนี่เป็นบทบาทพื้นฐานของผู้ดำรงตำแหน่งนี้ โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโควิด-19 ซึ่งต้องอาศัยทั้งความสามารถและภาวะผู้นำของรัฐมนตรีสาธารณสุขเพื่อให้ประเทศพ้นวิกฤติ
วันนี้ workpointTODAY ยกตัวอย่างรัฐมนตรีสาธารณสุขจากหลายประเทศที่ทำหน้าที่หรือแสดงความรับผิดชอบ ต่อการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ซึ่งถือเป็นความท้าทายที่สุดต่อการจัดการสถานการณ์ตอนนี้
วันที่ 29 พ.ค. 2564 นายเหงวียน ทัน ลอง รัฐมนตรีสาธารณสุขเวียดนาม เป็นผู้นำการประชุมกับผู้แทนจากบริษัทซิลลิค ฟาร์มา ผู้แทนของ ‘โมเดอร์นา’ (Moderna) ผู้ผลิตวัคซีนโควิด-19 โดยเป็นฝ่ายร้องขอให้ซิลลิค ฟาร์มา จัดส่งวัคซีนโมเดอร์นาให้เวียดนามเร็วที่สุด ในราคาที่เหมาะสม เพื่อให้เวียดนามนำมาใช้จัดการโควิดที่กำลังระบาดรุนแรงตอนนี้
โดยในวันเดียวกัน รัฐมนตรีสาธารณสุขเวียดนามร่วมเจรจากับผู้แทนนานาชาติทั้งญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย อังกฤษ และสหภาพยุโรป โดยมีเป้าหมายหารือถึงการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ให้เวียดนาม ขณะเดียวกันยังพูดถึงแผนการฉีดวัคซีนให้แรงงานตามโรงงานของบริษัทข้ามชาติที่มีฐานการผลิตในเวียดนามไปพร้อมๆ กัน
วันที่ 9 ส.ค. 2564 นายควอน ดอค-ชล รัฐมนตรีสาธารณสุขเกาหลีใต้ ออกมาขอโทษประชาชนหลังเผชิญปัญหาขาดแคลนวัคซีนโควิด-19 เนื่องจากบริษัทโมเดอร์นา สามารถจัดส่งวัคซีนโควิด-19 ให้เกาหลีใต้ได้ไม่ถึงครึ่งหนึ่งจากแผนที่วางเอาไว้ เพราะประสบปัญหาการผลิต
โดยรัฐมนตรีสาธารณสุขเกาหลีใต้ระบุว่า เขาต้องขอโทษอีกครั้งที่ทำให้ประชาชนกังวลจากการจัดส่งวัคซีนโมเดอร์นา พร้อมเปิดเผยว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ร้องเรียนโมเดอร์นาถึงการจัดส่งวัคซีนล่าช้าไปแล้ว และจะส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงไปพูดคุยกับโมเดอร์นาต่อไป
วันที่ 12 มี.ค. 2564 นายมาเรค คาร์จซี รัฐมนตรีสาธารณสุขสโลวาเกีย ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งหลังถูกกดดันจากหลายฝ่าย ไม่เว้นแม้กระทั่งในหมู่พรรคร่วมรัฐบาล จากการตัดสินใจสั่งซื้อวัคซีนสปุตนิก วี (Sputnik V) ของรัสเซียจำนวน 2 ล้านโดส ซึ่งเป็นข้อตกลงจัดซื้อวัคซีนที่ไม่ผ่านการเห็นชอบ รวมทั้งวัคซีนของรัสเซียยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการด้วย
แม้ผู้นำสโลวาเกียซึ่งมาจากพรรคเดียวกันจะพยายามปกป้อง โดยชี้ว่ารัฐมนตรีสาธารณสุขต้องการให้ประเทศได้วัคซีนเร็วที่สุด จึงสั่งซื้อวัคซีนจากรัสเซียแบบลับๆ แต่ในท้ายที่สุดรัฐมนตรีสาธารณสุขคนนี้ต้านทานแรงกดดันไม่ไหว ขอลาออกจากตำแหน่งโดยให้เหตุผลว่า เขาไม่ต้องการขัดขวางการทำงานของรัฐบาล
วันที่ 5 ม.ค. 2564 นายกรัฐมนตรีลัตเวียปลดนางไอเซิล วินเคเล ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีสาธารณสุข พร้อมให้คำมั่นว่าจะหารัฐมนตรีสาธารณสุขคนใหม่ที่มีความสามารถและมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน หลังรัฐบาลลัตเวียถูกวิจารณ์อย่างมากถึงการควบคุมโรคโควิด-19 โดยเฉพาะแผนการจัดซื้อวัคซีนที่ประสบปัญหาอย่างมาก
โดยรัฐมนตรีสาธารณสุขลัตเวียคนนี้ถูกวิจารณ์ถึงการพึ่งพิงวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) เป็นวัคซีนหลัก ซึ่งในขณะนั้นยังไม่ผ่านการรับรองจากหน่วยงานด้านยาของสหภาพยุโรป โดยมีแผนสั่งซื้อวัคซีนจากแอสตร้าเซนเนก้ารวมแล้วกว่า 1.2 ล้านโดส ขณะที่วัคซีนยี่ห้ออื่น เช่นไฟเซอร์ (Pfizer) หรือโมเดอร์นา (Moderna) กลับสั่งจองอย่างละไม่ถึง 100,000 โดสเท่านั้น