ปลัดคลังเร่งแก้คนไม่ได้ 5 พัน ยันช่วยคนเข้าเกณฑ์ที่กระทบโควิด ไม่เฉพาะคนจน

วันที่ 14 เม.ย. นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์รายการ Workpoint Today ถึงการที่ประชาชนที่ถูกตัดสิทธิ์หรือยังไม่ได้รับการตอบกลับจากการลงทะเบียนรับเงินช่วยเหลือ 5 พันบาท ในโครงการ “เราไม่ทิ้งกัน” ไปรวมตัวที่กระทรวงการคลัง เพื่อขอให้มีการทบทวนเรื่องนี้ว่า

ส่วนหนึ่งเกิดจากการสื่อสารผิดพลาดเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ผู้ที่ได้รับแจ้งว่าไม่มีสิทธิ์จะไม่มีช่องทางให้อุทธรณ์ ทำให้คนสับสนกังวลมีคนเดินทางไปที่กระทรวงคลังเพื่อไปยื่นหนังสือ และมีการบอกต่อๆ กัน ซึ่งการไปยื่นเป็นเอกสารเจ้าหน้าที่ไม่สามารถมาดูแลให้ทุกคนได้ ต้องเป็นระบบการลงทะเบียนออนไลน์ เพื่อให้ตรวจสอบข้อมูลได้ แต่พอเจ้าหน้าที่รับไว้เพื่อไม่ให้เกิดความตึงเครียดเลยมีการบอกต่อๆ กัน
.
สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นมากที่สุด คือ การมีชื่ออยู่ในกลุ่มเกษตรกร โดยผู้ลงทะเบียนยืนยันว่ามีอาชีพอื่น ซึ่งเกิดจากการที่คนในครอบครัว เช่น พ่อแม่ ลงทะเบียนรับสิทธิ์ช่วยเหลือต่างๆ เช่น น้ำท่วมภัยแล้งไว้ ซึ่งมีการชดเชยเป็นครอบครัว หรืออาจจะเกิดจากเคยไปติดต่อธนาคารในลักษณะเดียวกันแล้วเจ้าหน้าที่ลงระบุคนในครอบครัวไว้ให้

กรณีนี้ยอมรับว่าเป็นปัญหาที่เราคาดไม่ถึง แต่เมื่อพบก็ได้เร่งประชุมว่าจะแก้ไขแย่างไร จึงออกแบบให้มีการอุทธรณ์ ขอทบทวนสิทธิ์ ยืนยันว่าเราเตรียมล่วงหน้าไว้แล้ว เพราะถ้าไม่เตรียมจะเปิดให้อุทธรณ์วันจันทร์นี้ไม่ทัน
.
กระทรวงการคลัง จะเปิดให้อุทธรณ์หรือยื่นทบทวนได้ ในเว็บไซต์เราไม่ทิ้งกัน ในวันจันทร์ที่ 20 เม.ย. นี้ หากอยู่ในกลุ่มที่มีเอกสารรับรอง เช่น ไกด์ จะมีช่องให้กรอกเลขใบอนุญาต, กลุ่มแท็กซี่ มีช่องให้กรอกเลขใบขับขี่สาธารณะ, พนักงานนวด กรอกใบรับรองนวดแผนไทยและระบุชื่อร้าน ลักษณะนี้จะใช้เวลาไม่นาน ภายใน 7 วันทำการได้ ทั้ง sms และตัวเงิน
.
ส่วนกรณีที่เป็นร้านค้า จะมีให้ระบุสถานที่และกระทรวงการคลังจะประสานกับกระทรวงมหาดไทย มีเจ้าหน้าที่ลงไปพบหรือถ่ายรูปร้าน จะใช้เวลามากขึ้นแต่จะดำเนินการให้เร็วที่สุด
.
“เรารู้ว่าความเดือดร้อนคืออะไร หัวอกของคนเดือดร้อนทุกข์อย่างไร”

เมื่อถามถึงการออกแบบระบบให้มีการลงทะเบียนใหม่ แทนการยึดข้อมูลจากผู้มีรายได้น้อย นายประสงค์ กล่าวว่า กรณีนี้ต่างออกไป เพราะจุดประสงค์จริงๆ คือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด คนที่รายได้หายไปจากผลกระทบของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คนที่ตกงาน โดยไม่อยู่ในประกันสังคม หรือคนที่ประกันตนเอง เพื่อให้ยังชีพอยู่ได้ในขณะนี้
.
ส่วนการดูแลคนรายได้น้อยจะเป็นเรื่องของบัตรสวัสดิการ แต่ครั้งนี้บางคนทำงานอยู่ บริษัทปิดตกงานจะใช้หลักคิดไม่เหมือนกัน บางคนยังมีทอง มีรถขับ ทำธุรกิจ แต่ร้านค้าอยู่ในห้างสรรพสินค้าและมีภาระความเดือดร้อน จะมองแบบคนรายได้น้อยไม่ได้ คนไม่ว่าจะรายได้เท่าไรก็เดือดร้อนได้ทุกคน ทุกคนเป็นคนไทยเหมือนกัน ต้องดูจากผลกระทบเป็นหลัก
.
สำหรับการช่วยเหลือ แม้จำนวน 9 ล้านคนมั่นใจว่าจะครอบคลุมคนที่ควรได้ แต่ไม่ได้จำเพาะเจาะจงที่ตัวเลขนี้เหมือนที่ท่านนายกรัฐมนตรี บอกว่ามีคนเดือดร้อนเท่าไรต้องดูแล
.
ถ้าเทียบกับเงินช่วยเหลือคนชรา ที่จ่ายให้ทุกคนที่เข้าเกณฑ์อายุ บางคนไม่ได้เดือดร้อนแต่ได้รับและยังรับอยู่ แต่เงินช่วยโควิดมาจากเงิน งบประมาณและเงินกู้ ควรช่วยเหลือคนเดือดร้อนจริงๆ เพราะเงินกู้ ไม่ได้มาฟรีต้องใช้หนี้ การช่วยเหลือต้องช่วยให้ตรงจุด จึงเป็นเหตุผลที่ไมได้จ่ายให้ทุกคนทั้งหมด