SHARE

คัดลอกแล้ว
การสำรวจประสิทธิภาพวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ในอิสราเอลและสิงคโปร์ ผลออกมาใกล้เคียงกัน โดยพบว่า วัคซีนชนิด mRNA ของไฟเซอร์ (Pfizer) และโมเดอร์นา (Moderna) มีประสิทธิภาพลดลงต่อการต้านไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา แต่ยังมีประสิทธิภาพสูงกว่า 60%
ขณะเดียวกันวัคซีนชนิด mRNA ยังสามารถป้องกันอาการป่วยรุนแรงจากไวรัสสายพันธุ์เดลตาได้สูงถึง 95% ข้อมูลจากทั้งสองประเทศสะท้อนอะไรบ้าง วันนี้ workpointTODAY สรุปมาให้อ่านกัน
1.) วันที่ 5 ก.ค. 2564 กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลเปิดเผยผลการศึกษาประสิทธิภาพวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์ล่าสุด พบว่า วัคซีนไฟเซอร์ต้านการติดเชื้อโควิด-19 แบบมีอาการลดลงเหลือ 64%
2.) ทางการอิสราเอลเชื่อว่า สาเหตุที่ทำให้วัคซีนไฟเซอร์มีประสิทธิภาพลดลงจากเดิมที่เคยสูงถึง 94.3% น่าจะเป็นเพราะความรุนแรงของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ที่พบในอิสราเอลมากขึ้น ซึ่งจากการเก็บข้อมูลพบว่า ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในอิสราเอลราว 90% ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา
3.) ส่วนในวันนี้ (7 ก.ค.) กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ เปิดเผยผลการศึกษาที่ระบุว่า จากการเก็บข้อมูลประสิทธิภาพวัคซีน mRNA ที่สิงคโปร์ใช้ ได้แก่วัคซีนไฟเซอร์ และวัคซีนโมเดอร์นา พบว่ามีประสิทธิภาพต้านไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ 69% ซึ่งทางการสิงคโปร์ก็เชื่อว่า สาเหตุที่วัคซีนมีประสิทธิภาพลดลงมาจากการระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตาเช่นกัน
4.) ผลการศึกษาของอิสราเอลและสิงคโปร์มีความคล้ายคลึงกันหลายอย่าง เช่น ศึกษาจากการใช้งานจริงของวัคซีนชนิด mRNA โดยมีความแตกต่างกันเล็กน้อยตรงที่สิงคโปร์ใช้วัคซีนโมเดอร์นาและไฟเซอร์ ส่วนอิสราเอลใช้วัคซีนไฟเซอร์ยี่ห้อเดียว แต่ได้ผลออกมาในระดับที่ใกล้เคียงกันคือกว่า 60%
5.) แม้วัคซีน mRNA จะมีประสิทธิภาพลดลงต่อไวรัสสายพันธุ์เดลตา แต่ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ป้องกันได้ สอดคล้องกับประสิทธิภาพป้องกันการป่วยหนักที่ยังอยู่ในระดับที่สูงมาก ซึ่งผลการศึกษาของอิสราเอลและสิงคโปร์ได้ผลตรงกันคือ 93%
6.) ผลการศึกษาชิ้นนี้ทำให้รัฐบาลอิสราเอลกำลังศึกษางานวิจัยอื่นๆ อย่างใกล้ชิด ถึงความเป็นไปได้ในการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ซ้ำเป็นเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยในตอนนี้มีเสียงเรียกร้องจากผู้นำฝ่ายค้านอิสราเอล ให้เร่งฉีดวัคซีนไฟเซอร์เป็นเข็มที่ 3 ให้กับประชาชนโดยเร็วที่สุด
7.) ส่วนท่าทีหลังทราบผลการศึกษาของรัฐบาลสิงคโปร์ รัฐมนตรีสาธารณสุขสิงคโปร์ได้ออกมาย้ำกับประชาชนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเข็มที่สอง ให้รีบไปฉีดเร็วที่สุด โดยปัจจุบันสิงคโปร์กำหนดช่วงทิ้งระยะการฉีดวัคซีนโควิด-19 ระหว่างเข็มแรกกับเข็มที่สองอยู่ที่ 4 สัปดาห์ จากเดิมที่ต้องทิ้งระยะ 6-8 สัปดาห์
8.) รัฐมนตรีสาธารณสุขสิงคโปร์ยืนยันว่า สิงคโปร์ไม่มีปัญหาขาดแคลนวัคซีน และในความเป็นจริงแล้ว รัฐบาลสามารถแจกจ่ายวัคซีนได้มากกว่าที่ทำอยู่ ประชาชนจึงควรเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่สอง เพื่อช่วยป้องกันการป่วยหนักได้ดีกว่า

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า