ซีอีโอไบโอเอ็นเทคยอมรับ ‘โอไมครอน’ อาจทำคนฉีดวัคซีนติดโควิดมากขึ้น ย้ำวัคซีนยังป้องกันป่วยหนัก

ซีอีโอ ‘ไบโอเอ็นเทค’ ยอมรับโควิดโอไมครอนอาจทำให้คนฉีดวัคซีนแล้วติดเชื้อมากขึ้น แต่วัคซีนจะช่วยให้ไม่ป่วยรุนแรง ชี้อาจไม่จำเป็นต้องพัฒนาวัคซีนใหม่ แต่แนะนำทุกคนรับวัคซีนเข็มสาม

วันที่ 1 ธ.ค. 2564 เว็บไซต์ WSJ รายงานการให้สัมภาษณ์ของนายอูกูร์ ซาฮิน ซีอีโอบริษัทไบโอเอ็นเทค (BioNTech) หนึ่งในผู้พัฒนาวัคซีนโควิด-19 ร่วมกับไฟเซอร์ (Pfizer) ที่ยอมรับว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน อาจทำให้คนที่ฉีดวัคซีนแล้วมีความเสี่ยงติดเชื้อมากขึ้น แต่วัคซีนยังคงมีประสิทธิภาพป้องกันไม่ให้อาการป่วยรุนแรงอยู่

นายซาฮินอธิบายว่า แม้ไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอนอาจมีแนวโน้มหลบภูมิคุ้มกันที่ได้จากการฉีดวัคซีนได้เก่งกว่าโควิดสายพันธุ์เดลตา เนื่องจากพบการกลายพันธุ์มากกว่า แต่ร่างกายของมนุษย์ยังมีระบบการป้องกันอีกชั้นที่เรียกว่า ‘T-Cells’ ที่พร้อมป้องกันไม่ให้ป่วยรุนแรง

ซีอีโอไบโอเอ็นเทคร้องขอให้ทุกคนอย่าตื่นตระหนก และเร่งดำเนินการตามแผนเดิม คือการเร่งฉีดวัคซีน โดยเฉพาะการไปรับวัคซีนกระตุ้นเข็มที่สาม

ขณะที่แนวโน้มการพัฒนาวัคซีนใหม่เพื่อสู้กับสายพันธุ์โอไมครอนโดยเฉพาะ แม้ก่อนหน้านี้ทางไฟเซอร์-ไบโออ็นเทค จะเคยเปิดเผยว่า อาจต้องใช้เวลา 100 วัน เพื่อพัฒนาวัคซีนรองรับไวรัสสายพันธุ์นี้หากมีความจำเป็น แต่ซีอีโอไบโอเอ็นเทคระบุล่าสุดว่า อาจไม่จำเป็นต้องพัฒนาวัคซีนเพื่อรองรับสายพันธุ์โอไมครอน แต่ควรเน้นการฉีดวัคซีนกระตุ้นเป็นเข็มที่สามมากกว่า

การออกมาให้ความเห็นของซีอีโอไบโอเอ็นเทคครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ซีอีโอของโมเดอร์นา เพิ่งยอมรับว่า โควิดสายพันธุ์โอไมครอนอาจทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลงเช่นกัน พร้อมอ้างความเห็นจากนักวิทยาศาสตร์หลายคนที่เชื่อว่า การเกิดขึ้นของสายพันธุ์นี้อาจไม่ใช่เรื่องดี แต่ยังคงรอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโควิดสายพันธุ์นี้ต่อไป