สหรัฐฯ ลดเวลากักตัวเหลือ 5 วัน หากผู้ติดเชื้อโควิดไม่มีอาการป่วย ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้วไม่ต้องกักตัว

สหรัฐฯ ออกมาตรการใหม่ ลดวันกักตัวผู้ติดเชื้อโควิดไม่มีอาการเหลือ 5 วัน จากนั้นบังคับสวมหน้ากาก ส่วนคนที่ฉีดกระตุ้นเข็ม 3 แล้วติดโควิด ขอแค่สวมหน้ากากไม่ต้องกักตัว หวังปรับสมดุลให้ประชาชนอยู่กับโควิดตามข้อมูลวิทยาศาสตร์

วันที่ 28 ธ.ค. 2564 ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคสหรัฐฯ (CDC) ออกข้อแนะนำใหม่ เกี่ยวกับมาตรการกักตัวของผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยเป็นการลดระยะเวลากักตัวในกลุ่มผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการป่วย จากเดิมที่ต้องกักตัว 10 วัน ลดลงเหลือ 5 วัน แต่ช่วง 5 วันหลังพ้นระยะกักตัว ผู้ติดเชื้อต้องสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่อใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่น

แถลงการณ์จากศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคสหรัฐฯ ยืนยันว่า การปรับมาตรการกักตัวดังกล่าวพิจารณาโดยคำนึงถึงหลักวิทยาศาสตร์ที่ชี้ว่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีแนวโน้มแพร่เชื้อในช่วง 1-2 วันก่อนมีอาการป่วย ไปจนถึงช่วง 2-3 วันที่เริ่มพบอาการป่วยแล้ว ดังนั้นระยะเวลากักตัว 5 วันสำหรับผู้ติดเชื้อโควิดแบบไม่มีอาการ และการสวมหน้ากากหลังจากนั้น ช่วยลดความเสี่ยงแพร่เชื้อโควิดได้

นอกจากนี้ ทางการสหรัฐฯ ยังเปิดทางให้ผู้ติดเชื้อโควิดที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เป็นเข็มกระตุ้นเรียบร้อยแล้วไม่จำเป็นต้องกักตัว แต่ต้องสวมหน้ากากตลอดเวลาที่อยู่ร่วมกับผู้อื่นเป็นเวลา 10 วันแทน

ดร.โรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคสหรัฐฯ ชี้ว่า มาตรการของทางศูนย์ฯ พยายามสร้างสมดุลระหว่างการป้องกันการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนที่มีแนวโน้มแพร่เชื้อเร็ว ควบคู่ไปกับการสร้างความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันของชาวอเมริกัน ก่อนจะแนะนำให้ชาวอเมริกันเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น สวมหน้ากากในพื้นที่สาธารณะหรือในพื้นที่ที่มีการระบาดหนัก รวมทั้งควรตรวจหาเชื้อโควิดก่อนการเข้าร่วมกิจกรรมกับคนจำนวนมาก

ทางการสหรัฐฯ ยืนยันว่า จากข้อมูลของแอฟริกาใต้และสหราชอาณาจักร ผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิดชนิด mRNA ครบ 2 เข็ม จะมีประสิทธิภาพต้านโควิดสายพันธุ์โอไมครอนได้ 35% อย่างไรก็ตาม หากฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นเป็น 75% อีกทั้งวัคซีนยังมีประสิทธิภาพป้องกันการป่วยเข้าโรงพยาบาลและการเสียชีวิตได้ด้วย

ปัจจุบันไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอน เป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดในสหรัฐฯ โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสหรัฐฯ ทะลุ 200,000 คนในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นอาจส่งผลต่อระบบรักษาในโรงพยาบาลเร็วๆ นี้ นอกจากนี้สหรัฐฯ ยังกำลังประสบปัญหาชุดตรวจโควิดไม่เพียงพออีกด้วย