เด็กไทยขนของหวงออกตึ๊งเพิ่มขึ้น2เท่า-โรงรับจำนำสะพัดเพิ่มขึ้นกว่า 600 ล้าน

สำรวจกระเป๋าเงินคนไทยช่วงภัยโควิด-19 “โรงรับจำนำ” คึกคัก คนแห่นำของหวงออกตึ๊ง กลุ่มนักเรียน-นักศึกษาในกทม. เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากปีก่อน

วันที่ 15 เมษายน นายนพดล เพิ่มพิทยา ผู้อำนวยการสำนักงานสถานธนานุบาล กรุงเทพมหานคร เปิดเผยกับทีมข่าว Workpoint News ว่า มีผู้มาใช้บริการสถาธนานุบาล (โรงรับจำนำ) ในสังกัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีทั้ง 21 แห่ง เพิ่มมากขึ้น โดยเมื่อเทียบกับปีที่แล้วในช่วงเดือนกันคือตั้งแต่ 1 มกราคม-31 มีนาคม พบว่า ปี 2563 มีมูลค่าทรัพย์สินที่มาจำนำเพิ่มขึ้น 1,785 ล้านบาท จากปี 2562 มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 1,680 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 104.75 ล้านบาท หรือ 6.23 %

(นพดล เพิ่มพิทยา ผอ.สถานธนานุบาล กทม.)

ขณะนี้ สถานธนานุบาล กทม.ได้ขยายโปรโมชั่นสำหรับ นักเรียน-นิสิต-นักศึกษา วงเงินไม่เกินคนละ 100,000 คน ลดดอกเบี้ย 50 สตางค์ อีก 1 เดือนเป็นตั้งแต่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายน  2563 ทั้งนี้จากข้อมูล 9 วันทำการ ถึงวันที่ 14 เมษายน พบว่า มีกลุ่มนักเรียน-นิสิต-นักศึกษา นำทรัพย์สินมาจำนำเมื่อเทียบช่วงเดือนกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นเป็น 31.24 ล้านบาท 559 คน (ปี 2562 ในช่วง 9 วัน อยู่ที่ 10.76 ล้านบาท 385 คน) เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าตัว

“ผมไปเจอกับตัวเองมีเด็กเอากีต้าร์มาจำนำเราก็ถามเขาว่า หนูไม่ใช้เหรอ เขาก็บอกว่าใช้ครับ ของหนูมันไม่มียี่ห้อเราก็ให้ได้ 500 บาท เขาบอกว่าผมเรียนของรัฐบาลครับ มันต้องจ่ายค่าเทอม แม่ผมขาดอยู่ 490 บาท ได้ 500 ผมพอครับ เขาก็พูดอย่างนี้ ซึ่งกีต้าร์ถ้ามียี่ห้อยามาฮ่าเราให้ได้ 4,000-5,000บาท ส่วนผู้ปกครองที่เอาของมาจำนำที่เราไม่เคยเห็นตอนนี้ได้เห็น คือ ขันเงินเป็นลายเทพพนม, เชี่ยนหมากเป็นเงินครบชุดก็เอามาจำนำ เป็นของแปลกๆ ที่เราไม่เห็นในท้องตลาด ซึ่งจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน”

(สถานธนานุบาล กทม.)

นายนพดล บอกว่า ช่วงเมษายนถึงพฤษภาคม สถานธนานุบาล กทม.ได้เตรียมเงินไว้ 1,000 ล้านบาท ขยายตั๋วจำนำให้ลูกค้าจาก 4 เดือน เป็น 8 เดือน ซึ่งอัตราเสี่ยงของสถานธนานุบาลจะสูงมาก ของที่รับจำไว้กองในสต๊อกแน่นอน ยกเว้น “ทองคำ” ช่วงนี้มีคนไถ่ถอนออกไปเพื่อนำไปขาย เพราะทองขึ้นราคา แต่ทางผู้ว่าฯกทม.ได้ให้นโยบายว่ากำไรขาดทุนต้องไม่คิด ต้องช่วยประชาชนก่อน ทางเราจึงเตรียมเงินไว้อีกล๊อค 900 ล้านบาท รวมเป็น 1,900 ล้านบาท

“อยากจะเรียนผู้จำนำท่านไว้ใจได้ เอาทรัพย์มาฝากกับเราได้ดอกเบี้ยถูก ระยะเวลายาวนาน ทรัพย์สินไม่สูญหายไม่เปลี่ยน มาในสภาพไหนกลับไปสภาพนั้น” ผอ.สถานธนานุบาล กทม. กล่าวทิ้งท้าย

(สธค. โรงรับจำนำของรัฐ)

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลจากสถานธนานุเคราะห์ หรือ สธค. (โรงรับจำนำของรัฐ) สังกัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งมี 39 แห่งทั่วประเทศ ที่เปิดเผยกับทีมข่าว Workpoint News ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563 มีผู้มาใช้บริการ 149,108 ราย คิดเป็นมูลค่า 5,200 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 มีผู้มาใช้บริการโรงรับจำนำ (รัฐ) เพิ่มขึ้นแล้ว 5,605 ราย มูลค่าในการรับจำนำทรัพย์เพิ่มขึ้น 500 ล้านบาท ทั้งนี้ 90 เปอร์เซ็นต์ของทรัพย์ที่ประชาชนนำมาจำนำเป็น “ทอง” เนื่องจากราคาทองคำผันผวน ทำให้มีประชาชนมาไถ่ถอนทอง เพื่อนำออกไปขายเพิ่มขึ้น

ขอบคุณภาพ FB: สถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร – โรงรับจำนำของกรุงเทพมหานคร และ สธค. โรงรับจำนำของรัฐ