รัฐบาลอังกฤษเผยแพร่รายงานประสิทธิภาพวัคซีนโควิด-19 จากการใช้จริงฉบับล่าสุดเมื่อวานนี้ (20 พ.ค.) ซึ่งผลจากการใช้จริงพบว่า วัคซีนโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) กับแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) มีประสิทธิภาพในระดับที่ใกล้เคียงกันตั้งแต่เข็มแรก
บทสรุปจากการใช้จริงในอังกฤษตอนนี้เป็นอย่างไร วันนี้ workpointTODAY จะสรุปมาให้อ่านกัน
1.) รัฐบาลอังกฤษออกรายงานควบคุมการใช้งานวัคซีนโควิด-19 (COVID-19 vaccine surveillance report) ประจำสัปดาห์ที่ 20 ซึ่งเป็นฉบับล่าสุดเมื่อวานนี้ (20 พ.ค.) โดยมีเนื้อหาสรุปประสิทธิภาพจากการใช้จริงของวัคซีนโควิด-19 ที่ฉีดให้กับประชาชนในประเทศ
รายงานดังกล่าวระบุว่า ในตอนนี้มีประชาชนในอังกฤษได้รับวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อย 1 เข็มแล้วมากถึง 49.4% หรือเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งประเทศ ขณะที่ประชาชนได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว อยู่ที่ประมาณ 27.8%
2.) รายงานฉบับนี้ติดตามประสิทธิภาพของวัคซีนโควิด-19 ที่ฉีดให้กับประชาชนไปแล้ว โดยเน้นการเปรียบเทียบประสิทธิภาพของวัคซีน 2 ยี่ห้อ ได้แก่ วัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) ที่ร่วมพัฒนากับไบโอเอ็นเทค (BioNTech) และวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca)
3.) การติดตามผลของรัฐบาลอังกฤษ จะแบ่งออกเป็น 5 หมวด ได้แก่ ประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อแบบมีอาการ, ป้องกันการเข้าโรงพยาบาล, ป้องกันการเสียชีวิต, ป้องกันการติดเชื้อ และป้องกันการแพร่เชื้อ
ในที่นี้ workpointTODAY จะหยิบยกเฉพาะประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อแบบมีอาการ, ป้องกันการเข้าโรงพยาบาล และป้องกันการเสียชีวิต เนื่องจากรัฐบาลอังกฤษระบุในรายงานว่า การติดตามผลป้องกันการติดเชื้อ และป้องกันการแพร่เชื้อ ยังมีหลักฐานน้อยเกินไป
4.) รายงานฉบับนี้ยังจำแนกอย่างชัดเจนถึงประสิทธิภาพของวัคซีนตั้งแต่เข็มแรก และติดตามผลต่อเนื่องเมื่อได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ซึ่งในรายงานจะมีข้อมูลของวัคซีนไฟเซอร์ครบ 2 เข็มมากกว่า
5.) ตัวเลขที่ออกมาทำให้เห็นว่า ประสิทธิภาพจากการใช้จริงของวัคซีนไฟเซอร์ และวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า มีความใกล้เคียงกันในทุกด้านตั้งแต่ได้รับการฉีดเข็มแรก โดยมีรายละเอียดดังนี้
ป้องกันการติดเชื้อมีอาการ เมื่อฉีด 1 เข็ม
วัคซีนไฟเซอร์ 55-70%
วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 55-70%
ป้องกันการติดเชื้อมีอาการ เมื่อฉีดครบ 2 เข็ม
วัคซีนไฟเซอร์ 85-90%
วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 85-90%
ป้องกันการเข้าโรงพยาบาล เมื่อฉีด 1 เข็ม
วัคซีนไฟเซอร์ 75-85%
วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 75-85%
ป้องกันการเข้าโรงพยาบาล เมื่อฉีดครบ 2 เข็ม
วัคซีนไฟเซอร์ 90-95%
วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ยังไม่มีข้อมูล
ป้องกันการเสียชีวิต เมื่อฉีด 1 เข็ม
วัคซีนไฟเซอร์ 75-80%
วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 75-80%
ป้องกันการเสียชีวิต เมื่อฉีดครบ 2 เข็ม
วัคซีนไฟเซอร์ 95-99%
วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ยังไม่มีข้อมูล
6.) ปัจจุบันอังกฤษอนุมัติการใช้งานวัคซีนโควิด-19 ทั้งสิ้น 3 ยี่ห้อ ได้แก่วัคซีนไฟเซอร์, วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า และวัคซีนโมเดอร์นา (Moderna) อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันรัฐบาลอังกฤษเปิดทางให้ผู้มีสิทธิ์ได้รับวัคซีนอายุต่ำกว่า 40 ปี สามารถเลือกวัคซีนโควิด-19 ได้ ตราบใดที่มีวัคซีนเพียงพอและไม่ทำให้การได้รับวัคซีนช้าลง
7.) การเปิดทางเลือกให้กับผู้ได้รับวัคซีนในอังกฤษ เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลถึงภาวะเลือดแข็งตัว ผลข้างเคียงจากวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งมีอัตราส่วนพบผลข้างเคียงดังกล่าว 4 คน จากจำนวนผู้ได้รับการฉีด 1,000,000 คน ซึ่งอังกฤษยืนยันว่า มีความเสี่ยงที่ต่ำมาก และวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ามีประสิทธิภาพมากกว่าเมื่อเทียบกับความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง