วัคซีนไฟเซอร์ ต้านโควิดกลายพันธุ์ได้จริง

งานวิจัยล่าสุดอย่างน้อย 2 ชิ้นยืนยันว่า วัคซีนโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) มีประสิทธิภาพในการต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ ในอย่างน้อย 2 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์อังกฤษ (B.1.1.7) และสายพันธุ์แอฟริกาใต้ (B.1.351)

วันที่ 6 พฤษภาคม 2564 วารสาร Lancet medical journal ตีพิมพ์งานวิจัยของ ดร.อิริค ฮาสส์ จากกระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลเมื่อวานนี้ (5 พ.ค.) โดยงานวิจัยดังกล่าวศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีนไฟเซอร์ จากการใช้จริงทั่วประเทศอิสราเอล ตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายนที่ผ่านมา

ผลการวิจัยพบว่า วัคซีนโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ มีประสิทธิภาพต้านเชื้อโควิด-19 ได้ตั้งแต่การฉีดเข็มแรก โดยอยู่ที่ 57.7% ขณะเดียวกันการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มเดียวยังมีประสิทธิภาพป้องกันการเข้าโรงพยาบาลและการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 อยู่ที่ 75.7% และ 77% ตามลำดับ

ส่วนผู้ได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบทั้ง 2 เข็ม เมื่อผ่านไปแล้ว 14 วัน จะมีประสิทธิภาพต้านการติดเชื้อได้ถึง 96.5% และป้องกันการเข้าโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตสูงถึง 98% และ 98.1% ตามลำดับ

แม้ในงานวิจัยจะไม่ได้ระบุชัดเจนว่า วัคซีนของไฟเซอร์สามารถต้านเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ได้ในระดับไหน แต่งานวิจัยชิ้นนี้เก็บข้อมูลในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ สายพันธุ์อังกฤษ (B.1.1.7) กำลังเป็นไวรัสหลักที่ระบาดในอิสราเอล

อย่างไรก็ตาม มีงานวิจัยอีก 1 ชิ้น ที่เผยแพร่ทาง the New England Journal of Medicine เมื่อวานนี้ (5 พ.ค.) ศึกษาประสิทธิภาพจากการใช้จริงของวัคซีนไฟเซอร์ ในประเทศกาตาร์ ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้วถึงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งงานวิจัยชิ้นนี้สรุปประสิทธิภาพต้านไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์อย่างชัดเจน

งานวิจัยชิ้นนี้ระบุว่า วัคซีนไฟเซอร์มีประสิทธิภาพต้านเชื้อโควิดสายพันธุ์อังกฤษ (B.1.1.7) มากถึง 89.5% และต้านเชื้อสายพันธุ์แอฟริกาใต้ (B.1.351) อยู่ที่ 75% เมื่อผ่านไปแล้ว 14 วันหลังได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม

workpointTODAY เคยสรุปกรณีไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ สายพันธุ์ต่างๆ ว่ามีความแตกต่างอย่างไร ติดตามได้ในคลิปนี้