‘ไฟเซอร์’ หนุนฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 กระตุ้นภูมิต้านโควิดสูงขึ้น 5-10 เท่า เร่งพัฒนาวัคซีนต้าน ‘เดลตา’ โดยเฉพาะ

วันที่ 9 ก.ค. 2564 สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า บริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) ผู้พัฒนาวัคซีนโควิด-19 ออกประกาศเมื่อวานนี้ (8 ก.ค.) ว่า ทางบริษัทจะเดินหน้าขออนุมัติการใช้งานวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 3 กับหน่วยงานสาธารณสุขของสหรัฐฯ โดยอ้างถึงข้อมูลเบื้องต้นที่ชี้ว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 3 มีส่วนช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานสูงขึ้น 5-10 เท่า ต่อการต้านไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิม และสายพันธุ์เบตา เมื่อเทียบกับการฉีด 2 เข็ม

บริษัทไฟเซอร์คาดว่า การฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 น่าจะให้ผลในลักษณะเดียวกันต่อไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา ซึ่งมีแนวโน้มติดเชื้อง่ายกว่า นอกจากนี้ยังเปิดเผยด้วยว่า กำลังพัฒนาวัคซีนเพื่อต้านเชื้อสายพันธุ์เดลตาโดยเฉพาะ และเริ่มผลิตล็อตแรกเพื่อทำการทดลองแล้ว

สำหรับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 บริษัทไฟเซอร์ระบุว่า จากข้อมูลการใช้จริงในประเทศอิสราเอลที่พบประสิทธิภาพของวัคซีนลดลงหลังฉีดไปแล้ว 6 เดือน ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า อาจต้องฉีดวัคซีนโควิดเข็มที่ 3 ภายใน 6-12 เดือน หลังได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว

อย่างไรก็ตาม หน่วยงานด้านสาธารณสุขในสหรัฐฯ ยังไม่ตอบรับแนวคิดการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่สาม โดยแถลงการณ์ร่วมของคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) กับศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคสหรัฐฯ (CDC) ระบุว่า ชาวอเมริกันที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 เข็มแล้ว ยังไม่จำเป็นต้องรับวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ในตอนนี้ พร้อมย้ำว่า หน่วยงานสาธารณสุขของสหรัฐฯ ได้เตรียมความพร้อมแล้ว หากต้องฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 แต่ก็กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาถึงความจำเป็น และช่วงเวลาที่เหมาะสมหากต้องฉีดวัคซีนเพิ่มจริง

รายงานของเว็บไซต์ CNN อ้างถึงความเห็นของเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ที่เชื่อมั่นว่า ประชาชนที่ฉีดวัคซีนในสหรัฐฯ ครบโดสแล้ว มีความเสี่ยงต่ำที่จะติดเชื้อโควิด-19 แม้จะเป็นไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตาก็ตาม ขณะเดียวกันยังระบุถึงผลการวิจัยก่อนหน้านี้ที่ชี้ว่า วัคซีนไฟเซอร์และโมเดอร์นา มีประสิทธิภาพสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายได้เป็นเวลานาน