คำแนะนำจากสิงคโปร์ เมื่อตรวจโควิด ATK ผลเป็นบวก

1.) สิงคโปร์ เป็นชาติที่ประกาศชัดเจนว่า ต่อจากนี้จะมีนโยบายอยู่กับโควิด จุดสำคัญคือรัฐบาลจะไม่ให้ความสำคัญกับจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันเป็นหลัก แต่จะไปเน้นที่จำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลแทน

2.) รัฐบาลสิงคโปร์เชื่อว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพ ให้กับประชาชนจำนวนมาก จะทำให้ลดความเสี่ยงการป่วยรุนแรงจากโควิด-19 ซึ่งข้อมูลล่าสุดจาก Our World in Data ชี้ว่า สิงคโปร์ฉีดวัคซีนโควิดให้กับประชาชนครบโดสแล้ว 77.3% จากประชากรทั้งประเทศ

3.) นอกจากการฉีดวัคซีนอย่างรวดเร็วและทั่วถึงแล้ว สิงคโปร์ยังนำชุดตรวจโควิดรวดเร็ว (antigen rapid test) ให้ประชาชนตรวจโควิดด้วยตัวเอง โดยได้เริ่มแจกจ่ายให้แต่ละครัวเรือนใช้ฟรีแล้ว และหากไม่เพียงพอ สามารถหาซื้อได้ทั่วไปด้วย

4.) หลังการแจกจ่ายชุดตรวจโควิดด้วยตัวเอง สื่อหลายสำนักในสิงคโปร์เริ่มรวบรวมข้อมูล อ้างอิงมาตรการของรัฐบาลและความเห็นผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตอบคำถามว่า หากตรวจโควิดด้วยตัวเองแล้วผลเป็นบวก ประชาชนต้องทำอย่างไรต่อไป โดยสิ่งที่แรกที่แนะนำคือ ต้องหยุดทำงานและเลิกพบปะผู้คนทันที

5.) คำแนะนำยังชี้ว่า ผู้ที่มีผลตรวจด้วยตัวเองเป็นบวก ไม่ควรไปโรงพยาบาล เพราะจะเสี่ยงแพร่เชื้อให้ผู้อื่น แต่ควรกักตัวเองที่บ้านเป็นเวลาอย่างน้อย 72 ชั่วโมงเพื่อดูอาการ และตรวจโควิดด้วยตัวเองอีกอย่างน้อย 1 ครั้ง เมื่อกักตัวครบกำหนดแล้ว ยกเว้นถ้าเริ่มมีอาการป่วย ให้ไปพบแพทย์ทันที

6.) สิ่งที่น่าสนใจคือ คำแนะนำระบุว่า หากกักตัวครบ 72 ชั่วโมงแล้วไม่มีอาการ และผลตรวจอีกครั้งเป็นลบ ก็ขอให้สบายใจ และค่อยๆ กลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้เลย

7.) แต่หากตรวจแล้วยังมีผลเป็นบวก คือมีเชื้อในร่างกายอยู่ ให้ดำเนินการนัดหมายขอรับการตรวจโควิด-19 แบบ RT-PCR ที่คลินิกใกล้บ้าน ตามรายชื่อสถานพยาบาลที่รัฐประกาศไว้ โดยขอให้สวมหน้ากากตลอดเวลา และหลีกเลี่ยงการขนส่งสาธารณะให้มากที่สุด

8.) หลังเข้ารับการตรวจ RT-PCR แล้ว ให้รอผล ซึ่งจะทราบใน 1-2 วัน หากผลเป็นลบก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้ แต่ถ้าผลเป็นบวก ให้ผู้รับการตรวจดำเนินการรักษาตัวที่บ้านทันที โดยที่รัฐบาลจะติดต่อกลับผ่าน SMS เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมภายใน 24 ชั่วโมง

9.) รัฐบาลสิงคโปร์ยืนยันว่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สามารถรักษาตัวที่บ้านได้ หากเข้าเกณฑ์ 5 ข้อดังต่อไปนี้

– ผู้ติดเชื้อได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว

– ผู้ติดเชื้อมีอายุ 12-69 ปี

– ผู้ติดเชื้อไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อย

– ผู้ติดเชื้อไม่มีอาการป่วยมาก่อน หรือไม่มีโรคแทรกซ้อน

– ผู้ติดเชื้อไม่มีกลุ่มเสี่ยงอยู่ในบ้าน ซึ่งก็ประกอบไปด้วย ผู้สูงอายุตั้งแต่ 80 ปีขึ้นไป หญิงตั้งครรภ์ หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ

10.) อย่างไรก็ตาม หากผู้ติดเชื้อไม่สะดวกรักษาตัวที่บ้าน หรือมีอาการป่วยหนัก รัฐบาลสิงคโปร์มีสถานที่รองรับ ทั้งสถานกักตัวของชุมชน หรือโรงพยาบาลเพื่อดูแลผู้ป่วยต่อไป

11.) แนวปฏิบัติการรักษาตัวที่บ้าน สอดคล้องกับผู้เชี่ยวชาญในสิงคโปร์ที่ชี้ว่า วัคซีนโควิด-19 มีประสิทธิภาพลดการติดเชื้อในบ้าน รวมไปถึงลดความเสี่ยงป่วยรุนแรงและเสียชีวิต ทั้งสมาชิกในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้สูงอายุที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง โดยในกรณีของเด็ก อาจมีความเสี่ยงป่วยไม่รุนแรงหากติดเชื้อมากกว่าผู้ใหญ่

12.) ผู้เชี่ยวชาญในสิงคโปร์ยืนยันว่า การตรวจโควิดด้วยตัวเองเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างสม่ำเสมอ แม้จะได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว และยิ่งต้องทำบ่อยขึ้นหากอยู่ในกลุ่มเสี่ยง โดยหากเข้าข่ายอยู่ในกลุ่มเสี่ยงติดโควิดและมีความกังวล ก็สามารถตรวจโควิดด้วยตัวเองได้ทุกวัน พร้อมยืนยันด้วยว่า การตรวจโควิดด้วยตัวเองไม่มีอันตรายหากทำอย่างถูกวิธี