สิงคโปร์ฉีดวัคซีนแล้ว นั่งกินข้าวด้วยกันได้ 5 คน

รัฐบาลสิงคโปร์ออกข้อกำหนดใหม่เกี่ยวกับการรวมกลุ่มรับประทานอาหาร หลังพบการระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศ

นี่เป็นแผนซึ่งอาจเป็นตัวอย่างถึงความพยายามใช้ชีวิตร่วมกับโควิด-19 ตามที่รัฐบาลสิงคโปร์เคยกำหนดเป้าหมายเอาไว้ ซึ่ง workpointTODAY สรุปมาให้อ่านเป็นข้อๆ ดังต่อไปนี้

1.) รัฐบาลสิงคโปร์กลับมาเพิ่มความเข้มงวดการควบคุมโรคโควิด-19 หลังพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อน เชื่อมโยงกับคาราโอเกะ 3 แห่ง โดยรายงานเมื่อวันศุกร์ (16 ก.ค.) พบผู้ติดเชื้อเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์นี้แล้ว 120 คน ซึ่งหนึ่งในมาตรการที่เข้มงวดขึ้น คือการจำกัดจำนวนการรับประทานอาหารร่วมกันนอกบ้าน

2.) สาระสำคัญของมาตรการใหม่นี้ คือการจำกัดจำนวนการนั่งรับประทานอาหารร่วมกันของผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 และไม่มีผลตรวจเชื้อ ให้นั่งรับประทานอาหารร่วมกันได้ไม่เกิน 2 คนเท่านั้น

มาตรการนี้ยังครอบคลุมไปถึงศูนย์อาหารที่ไม่สามารถตรวจประวัติผู้ใช้บริการ ให้จำกัดการนั่งกินอาหารร่วมกันได้ไม่เกิน 2 คนเช่นกัน

3.) ส่วนร้านอาหารที่สามารถตรวจข้อมูลผู้ใช้บริการได้ จะเปิดทางให้ผู้ใช้บริการรับประทานอาหารร่วมกันได้สูงสุด 5 คน โดยมีข้อแม้ว่า ผู้ใช้บริการจะต้องอยู่ใน 3 กลุ่มนี้เท่านั้น ได้แก่เป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบโดสแล้ว เป็นผู้ที่เคยป่วยด้วยโรคโควิด-19 แต่หายดีแล้ว หรือเป็นผู้ที่มีประวัติการตรวจโรคโควิด-19

4.) กลุ่มแรก คือผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบโดสแล้ว รัฐบาลสิงคโปร์อนุญาตเฉพาะผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์ (Pfizer) หรือโมเดอร์นา (Moderna) ครบ 2 เข็ม เป็นเวลา 2 สัปดาห์ขึ้นไปเท่านั้น

กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ให้เหตุผลว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วจะมีภูมิคุ้มกันในร่างกาย ลดความเสี่ยงการป่วยรุนแรง และลดความเสี่ยงแพร่เชื้อให้ผู้อื่นสูงกว่าคนที่ยังไม่ได้ฉีด

5.) ส่วนอีกสองกลุ่มที่รัฐบาลสิงคโปร์เปิดทางให้นั่งรับประทานอาหารได้ไม่เกิน 5 คน คือผู้ที่หายป่วยจากโรคโควิด-19 ในช่วง 270 วันที่ผ่านมา และผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนโควด-19 แต่มีผลตรวจโรคและไม่พบเชื้อโควิด-19 ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

6.) มาตรการของรัฐบาลสิงคโปร์ยังครอบคลุมการรับประทานอาหารนอกบ้านร่วมกับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ซึ่งยังไม่มีสิทธิ์รับวัคซีนโควิด-19 ด้วย โดยเปิดทางให้คนที่อยู่บ้านเดียวกัน สามารถรับประทานอาหารนอกบ้านร่วมกับเด็กได้ โดยห้ามเกิน 5 คน แต่หากอยู่คนละบ้าน จำนวนเด็กต้องน้อยกว่าหรือเท่ากับจำนวนผู้ใหญ่ และห้ามนั่งร่วมกันเกิน 5 คน โดยที่ผู้ใหญ่ต้องเข้าเงื่อนไข 3 กลุ่มที่สามารถนั่งรับประทานอาหารได้ 5 คน

7.) รัฐบาลสิงคโปร์ระบุว่า มาตรการนี้จะเริ่มต้นบังคับใช้ในวันจันทร์ (19 ก.ค.) ไปจนถึงวันที่ 8 ส.ค. โดยเปิดทางให้ร้านอาหารหรือศูนย์อาหารสามารถให้บริการได้อย่างยืดหยุ่นภายใต้มาตรการที่กำหนดไว้