ล็อกดาวน์ซิดนีย์ รัฐบาลจ่ายชดเชย SMEs สูงสุด 10,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย

การประกาศล็อกดาวน์เป็นทางเลือกสุดท้ายของหลายประเทศ เพื่อยับยั้งการระบาดของโรคโควิด-19 เพราะแม้จะมีประสิทธิภาพลดการติดเชื้อเป็นวงกว้าง แต่ก็จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคเศรษฐกิจ โดยเฉพาะต่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)

วันนี้ workpointTODAY จะพาไปดูมาตรการของรัฐบาลท้องถิ่นในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ในนครซิดนีย์ แต่ในขณะเดียวกันก็ออกมาตรการเยียวยาธุรกิจรายย่อยเพื่อชดเชยรายได้จากการล็อกดาวน์เอาไว้ด้วย

1.) วันที่ 28 มิ.ย. 2564 คณะกรรมการโควิด-19 ของออสเตรเลีย เรียกประชุมฉุกเฉิน หลังพบการระบาดของโรคโควิด-19 ในนครซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ นำไปสู่การตัดสินใจใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด โดยในตอนแรกสั่งให้การล็อกดาวน์มีผล 2 สัปดาห์ และอาจมีแนวโน้มขยายล็อกดาวน์เพิ่มอีก หากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันไม่ลดลง

2.) คำสั่งล็อกดาวน์ซิดนีย์ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนกว่า 5 ล้านคน ไม่รวมถึงชาวออสเตรเลียในพื้นที่ใกล้เคียงอีกจำนวนมาก โดยข้อบังคับหลักคือการที่ประชาชนต้องอยู่ที่บ้าน ยกเว้นอาชีพที่มีความจำเป็นที่สามารถออกจากบ้านได้เท่านั้น

3.) รัฐบาลท้องถิ่นในรัฐนิวเซาท์เวลส์ยอมรับว่า การประกาศล็อกดาวน์ทำให้ประชาชนและผู้ประกอบการเจ็บปวด เพราะนี่จะสร้างความเสียหายต่อธุรกิจ ลุกลามไปถึงการทำมาหากินของหลายครอบครัว

4.) อย่างไรก็ตาม รัฐบาลท้องถิ่นของออสเตรเลียได้ออกมาตรการเยียวยาธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ โดยเน้นไปที่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยว โดยนอกจากมาตรการช่วยเหลือด้านภาษี และการขยายเวลาโครงการส่งเสริมการใช้จ่ายออกไปแล้ว ยังมีมาตรการให้เงินอุดหนุนกับกิจการเหล่านี้โดยตรง

5.) มาตรการช่วยเหลือธุรกิจของรัฐนิวเซาท์เวลส์ จะครอบคลุมบริษัทที่จดทะเบียนในรัฐนิวเซาท์เวลส์ และทำธุรกิจในพื้นที่ โดยกำหนดเงื่อนไขว่า บริษัทดังกล่าวต้องมีลูกจ้างประจำไม่เกิน 20 คน และมีเงินหมุนเวียนต่อปี 75,000-1,200,000 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อปี ถึงจะเข้าเกณฑ์ขอรับเงินอุดหนุน

6.) เอกสารที่สำคัญที่สุดในการยื่นของรับเงินอุดหนุน คือเอกสารเปรียบเทียบรายได้ย้อนหลังไปในเดือน ก.ค. 2562 หรือเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงก่อนการระบาดของโรคโควิด-19

7.) ข้อมูลจากเอกสารรายได้ย้อนหลังเมื่อ 2 ปีก่อน จะถูกนำมาเปรียบเทียบกับรายได้ในปัจจุบัน และคำนวณเป็นสัดส่วนรายได้ที่หายไป เพื่อพิจารณาให้เงินอุดหนุน ดังต่อไปนี้
รายได้ลดลง 70% ได้รับเงินอุดหนุน 10,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย
รายได้ลดลง 50% ได้รับเงินอุดหนุน 7,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย
รายได้ลดลง 30% ได้รับเงินอุดหนุน 5,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย

8.) มาตรการจ่ายเงินอุดหนุนกิจการขนาดกลางและขนาดเล็กของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ได้รับเสียงชื่นชมจากหลายฝ่าย เช่นสมาคมโรงแรมนิวเซาท์เวลส์ที่ระบุว่า การจ่ายเงินอุดหนุนกิจการเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม เพราะบางกิจการเช่นผับ ก็ยังมีค่าใช้จ่ายต่างๆ แม้จะต้องปิดกิจการชั่วคราว

9.) ขณะที่นายโดมินิก เพอร์รอตเตต รัฐมนตรีคลังประจำรัฐนิวเซาท์เวลส์ระบุว่า สิ่งที่ทางการนิวเซาท์เวลส์กำลังทำคือพยายามรักษากิจการต่างๆ ให้อยู่รอดต่อไป โดยเข้าใจว่าในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ตลอด 18 เดือนที่ผ่านมา ผู้ประกอบการประสบกับความยากลำบาก แต่ก็อยากให้ทุกคนตั้งความหวังว่ามันกำลังจะผ่านไปในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า