ไทยเข้าอังกฤษไม่ต้องกักตัว 11 ต.ค. นี้ หากฉีดวัคซีนครบโดส ‘ซิโนแวค-ซิโนฟาร์ม’ กักตัวเหมือนเดิม

อังกฤษถอดไทยจากบัญชีสีแดง 11 ต.ค. นี้ เข้าอังกฤษไม่ต้องกักตัวหากฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว แต่ฉีด ‘ซิโนแวค-ซิโนฟาร์ม’ ยังต้องกักตัวเหมือนเดิม เพราะไม่อยู่ในรายชื่อวัคซีนที่อังกฤษรับรอง

วันที่ 8 ต.ค. 2564 รัฐบาลอังกฤษออกข้อกำหนดใหม่ในการเดินทางเข้าประเทศ โดยมีสาระสำคัญคือการถอนประเทศไทยออกจากบัญชีสีแดง มีผลตั้งแต่วันจันทร์ที่ 11 ต.ค. นี้ เวลา 04.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งจะเปิดทางให้ผู้ที่เดินทางจากประเทศไทย และมีหลักฐานการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบโดสแล้ว ไม่จำเป็นต้องกักตัว 10 วันอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม ข้อกำหนดของรัฐบาลอังกฤษ รับรองวัคซีนโควิด-19 ทั้งสิ้น 4 ยี่ห้อเท่านั้น ได้แก่วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca), ไฟเซอร์ (Pfizer), โมเดอร์นา (Moderna) และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Johnson & Johnson) โดยจะต้องฉีดครบโดสก่อนเข้าอังกฤษอย่างน้อย 14 วัน

ข้อกำหนดขอรัฐบาลอังกฤษระบุว่า วัคซีนที่ผลิตตามสูตรเดียวกับวัคซีนข้างต้น เช่น วัคซีนโมเดอร์นาของทาเคดะ (Takeda) หรือวัคซีนโควิชิลด์ ซึ่งเป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตในอินเดีย รวมทั้งวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าภายใต้ชื่อ ‘Vaxzevria’ ที่มาจากแหล่งผลิตทั่วโลกรวมทั้งไทยก็ได้รับการรับรองด้วย

รัฐบาลอังกฤษยังเปิดทางให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนไขว้ ระหว่างสองยี่ห้อที่รัฐบาลอังกฤษรับรอง รวมถึงการฉีดวัคซีนครบโดสมาจากคนละประเทศก็ได้รับการรับรองเช่นกัน แต่ต้องเป็นยี่ห้อที่รัฐบาลอังกฤษกำหนด 4 ยี่ห้อดังกล่าวเท่านั้น

ขณะที่วัคซีนซิโนแวค (Sinovac) และวัคซีนซิโนฟาร์ม (Sinopharm) ที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายในประเทศไทย ไม่ปรากฎอยู่ในรายชื่อวัคซีนที่รัฐบาลอังกฤษรับรอง ทำให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนของสองยี่ห้อ และยี่ห้ออื่นที่นอกเหนือจากนี้ จะต้องปฏิบัติตามเกณฑ์เหมือนกับผู้ที่ยังฉีดวัคซีนไม่ครบโดสต่อไป คือต้องกักตัวเมื่อถึงอังกฤษเป็นเวลา 10 วัน

โดยผู้ที่จะเดินทางเข้าอังกฤษและไม่ผ่านเกณฑ์ฉีดวัคซีนครบโดส ยังจำเป็นต้องมีหลักฐานการตรวจโควิด-19 ไม่เกิน 3 วันก่อนการเดินทาง และต้องเข้าไปจองตรวจโควิด-19 สำหรับตรวจในวันที่ 2 และวันที่ 8 ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องกักตัวในอังกฤษด้วย ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ต้องเข้าไปจองตรวจโควิด-19 เฉพาะวันที่ 2 หลังเดินทางถึงอังกฤษเท่านั้น