ไทยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 3 ราย ยอดป่วยสะสม 53 ราย รักษาหายแล้ว 33 ราย

กระทรวงสาธารณสุขพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโคโรนา 2019 เพิ่ม 3 ราย ทำให้มีผู้ป่วยยืนยันที่รักษาหายแล้ว 33 ราย ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 19 ราย เสียชีวิต 1 ราย ผู้ป่วยสะสมในประเทศไทยขณะนี้ 53 ราย

วันที่ 10 มี.ค.2563 นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะร่วมกันแถลงความคืบหน้าสถานการณ์โคโรนา 2019 ว่า ในวันนี้พบผู้ป่วยยืนยันโรคติดเชื้อเพิ่ม 3 ราย รายแรก เป็นหญิงไทย อายุ 41 ปี ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายที่ 45 ชายไทย พนักงานบริษัท ที่กลับจากประเทศอิตาลี เริ่มป่วยวันที่ 7 มี.ค.63 ด้วยอาการ ไข้ รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ราชวิถี เป็นผู้ป่วยยืนยันรายที่ 51 รายที่ 2 และ 3 เป็นสามีภรรยากัน ภรรยาอายุ 46 ปี เป็นผู้ป่วยยืนยันรายที่ 52 มีประวัติเดินทางกลับจากประเทศอิตาลี กลับถึงเมืองไทยวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 มีอาการไม่สบายตัว ส่วนสามีอายุ 47 ปี นับเป็นผู้ป่วยยืนยันรายที่ 53 ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 7 มี.ค.63 ด้วยอาการไข้สูง ปวดเมื่อยตามร่างกาย ไปตรวจที่โรงพยาบาลพบเชื้อ จึงได้ตรวจภรรยาด้วยและพบเชื้อ (ทั้ง 2 คน แยกตัวอยู่ที่บ้านแต่อยู่ด้วยกันตลอด) ขณะนี้ทั้ง 2 ราย รักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม

ส่วนแรงงานไทยนอกระบบจากเกาหลีใต้ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ ปัจจุบันมีทั้งหมด 188 คน เป็นชาย 88 คน หญิง 100 คน มาจากเมืองแทกูและคย็องซังเหนือ 8 คน) มีกลุ่มดูแลพิเศษ 20 คน เป็นหญิงตั้งครรภ์ 5 คน เด็กเล็ก 4 คน มีโรคประจำตัว 11 คน ผลการคัดกรองไม่พบผู้อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง ทั้งหมดไม่มีไข้ โดยการติดตามผู้ที่หลบหนีจากการกักตัว จำนวน 80 คนนั้น ขณะนี้ยืนยันว่าสามารถติดตามตัวได้เกือบครบแล้ว หากคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ คาดว่าอยู่ที่ร้อยละ 80 – 90 และในส่วนของผู้ที่ติดตามตัวเจอก็ได้ให้ดำเนินการกักตัวเองอยู่ในบ้านอย่างเข้มงวด

ผู้สื่อข่าวถามกรณีผู้ป้วยยืนยัน 3 รายที่เพิ่มเข้ามาให้ ติดจากผู้ใกล้ชิด นพ.โสภาณ กล่าวว่า ผู้สัมผัสทั้ง 2 รายอยู่คนละทริป เมื่อทราบว่าป่วยก็แยกตัวเองออก ผู้สัมผัสครั้งแรกไม่ได้ระมัดระวัง เมื่อรู้ว่าเป็นจึงแยกตัวออกมาและระมัดระวังตัวเอง

เมื่อถามว่าโควิด-19 จะอยู่อีกนานแค่ไหน นพ.ยงยศ กล่าวว่า การเฝ้าระวังจะต้องดำเนินการต่อเนื่องแต่คงตอบยากว่าจะโครจะอยู่อีกนานแค่ไหน ขอให้ประชาชนให้ความร่วมมืออย่างจริงจัง สร้างตัวเองให้เป็นคนแข็งแรงงานไกลโรค เชื่อว่าเราจะชนะโควิด-19 ได้

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวรทย ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า แนวโน้มสถานการณ์การแพร่ระบาดในจีนดีขึ้น แต่การแพร่กระจายไปอยู่ที่ยุโรป โดยอิตาลีพบผู้ติดเชื้อขึ้นมาเป็นอันดับ 2 พร้อมขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปประเทศที่แพร่ระบาดในยุโรป หากจำเป็นขอให้ตรวจสอบข้อมูลเมืองต่าง ๆ และระมัดระวังอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคได้ทำเกณฑ์ห้องควบคุมโรค คือ ต้องมีการจัดห้องให้เหมาะสม มีห้องน้ำแยก โรงครัวและห้องครัว

ขณะที่นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงแรงงานไทยนอกระบบในเกาหลีใต้ โดยเข้ากักตัวเฝ้าระวังโรคที่อาคารรับรองสัตหีบ 188 คน เป็นชาย 88 คน หญิง 100 คน โดยมาจากแทกู และคย็องซังเหนือ 8 คน มีกลุ่มที่ต้องดูแลพิเศษ 20 คน เป็นหญิงตั้งครรภ์ 5 คน และเด็กเล็ก 4 คน มีโรคประจำตัว 11 คน ผลคัดกรองยังไม่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค (PUI) ทั้งหมดไม่มีไข้

เมื่อถามถึงประเด็นหน้ากากอนามัย นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ทราบว่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมามีการผลิตภายในประเทศ 1.2 ล้านชิ้น/วัน ใช้ในระบบกระทรวงสาธารณสุข 7 แสนชิ้นต่อวัน กรมการค้าภายใน 5 แสนชิ้นต่อวัน ภาพใหญ่ของสำนักงานปลัดกระทรวง สธ. ได้ 4 แสนชิ้น ที่เหลือกระจายให้ส่วนอื่นๆ  องค์การเภสัชจะกระจายให้โรงพบาลในพื้นที่ต่างๆ 12 เขต

สำหรับยอดสรุปวันนี้มีผู้ป่วยยืนยันที่รักษาหายแล้ว 33 ราย ยังรักษาตัวอยู่ใน โรงพยาบาล 19 ราย เสียชีวิต 1 ราย ผู้ป่วยสะสมในประเทศไทยขณะนี้ 53 ราย เป็นป่วยอาการหนัก 1 ราย ที่รักษาตัวอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ส่วนสถานการณ์การระบาดของโลกขณะมีการติดเชื้อใน 108 ประเทศ 2 เขตการปกครองพิเศษ และ 1 เรือสำราญ สถานการณ์ผู้ป่วยของประเทศอยู่ในอันดับที่ 32 ของโลก