อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยวันนี้วัคซีนไฟเซอร์เข้าไทยอีก 1.5 ล้านโดส ระบุประสิทธิภาพหลังฉีดไฟเซอร์ครบ 2 เข็ม สามารถป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าได้ถึง 94%
วันที่ 21 ต.ค. 2564 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงความคืบหน้าหลังคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญ ผู้แทนสมาคมวิชาชีพหลากหลาย ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย มีความเห็นตรงกันว่าให้เด็ก 12-18 ปี รับวัคซีนไฟเซอร์ครบ 2 เข็ม ว่า
สมาคมโรคติดเชื้อเด็กและสถาบันวัคซีนแห่งชาติ รายงานผลการศึกษาระดับภูมิคุ้มกันในเด็กวัยรุ่นไทย 12-18 ปี พบว่า ต้องฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ครบ 2 เข็ม ระดับภูมิคุ้มกันจึงจะเพียงพอต่อกันป้องกันเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลต้า ประสิทธิภาพการฉีดไฟเซอร์ 1 เข็ม ไม่สามารถป้องกันสายพันธุ์เดลต้าได้ ระดับภูมิคุ้มกันหลังฉีดไม่ถึงระดับที่ป้องกันโรคได้ สอดคล้องกับผลการทบทวนประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 ของวัคซีนไฟเซอร์ในผู้ใหญ่ที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม จะมีประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อสูงถึงร้อยละ 94 และหากฉีดเข็มเดียวภูมิคุ้มกันเหลือเพียงร้อยละ 52

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค
นพ.โอภาส กล่าวว่า อาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบในเด็กหลังฉีดไฟเซอร์ ในประเทศไทยพบน้อยมากมีเพียง 10 ราย จากที่มีการฉีดไปแล้วกว่า 2,000,000 ราย ทุกรายมีอาการไม่รุนแรง และรักษาหายเป็นปกติเกือบทั้งหมด ซึ่งมีอัตราต่ำกว่าในต่างประเทศ
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกได้ให้คำแนะนำการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็ม 3 ต่างชนิดกัน ซึ่งไทยได้มีการดำเนินการไปแล้วกระตุ้นเข็ม 3 ในรูปแบบต่างชนิดกันหลังรับวัคซีนเชื้อตายไปแล้ว เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
“คาดว่าสิ้นปี 2564 ประเทศไทยจะสามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 ครอบคลุม 100 ล้านโดส และวันนี้วัคซีนไฟเซอร์ เข้ามาเพิ่มอีก 1.5 ล้านโดส ส่วนวัคซีนซิโนแวคเหลืออีก 2 ล้านโดสจะทยอยเข้ามาในเดือนตุลาคมนี้” อธิบดีกรมควบคุมโรค