นทท.เข้าไทยติดโควิดเพิ่ม 9 ราย ศบค.สั่งเร่งฉีดวัคซีนคนไทยอีก 11 ล้านคน

ศบค.สั่งเร่งฉีดวัคซีน ปชช.อีก 11 ล้านคนที่ไม่ได้รับวัคซีนเลย ขณะที่ผลการเปิดประเทศ 16 วัน นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยรวม 58,870 ราย พบติดโควิดในอัตราร้อยละ 0.13

วันที่ 17 พ.ย. 2564  พญ. สุมณี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค สรุปผลการฉีดวัคซีนวันนี้ว่า มีจำนวนผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นเข็มที่ 1 สะสม 63.4% ครบ 2 เข็ม 52.1% โดยเป้าหมายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ ประชาชนควรได้รับเข็มที่ 1 ครอบคลุมประชากรทั้งสิ้นเนี่ยไม่น้อยกว่า 70%  เมื่อไปสำรวจในภาพรวมพบว่ายังมีผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเลยประมาณ 11 ล้านคน คนไทยที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเลยก็ยังคงต้องขอความร่วมมือในภาคส่วนต่างๆนะคะไม่ว่าจะเป็นท่านกำนันผู้ใหญ่บ้านนะคะผู้นำชุมชนในพื้นที่นะคะได้ช่วยกันเร่งรัดการฉีดวัคซีนที่ต่างๆให้มากขึ้นนะคะโดยเฉพาะในจังหวัดที่ยังคงมีการระบาด จ.นครศรีธรรมราช จ.สงขลา จ.ปัตตานี จ.ยะลา และจ.นราธิวาส ให้รีบมาฉีดวัคซีนให้เพิ่มขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงไม่ให้ป่วยแล้วมีอาการหนักแล้วก็ลดโอกาสการเสียชีวิตให้ได้มากที่สุด ค่าเฉลี่ยความครอบคลุมของการได้รับวัคซีนเข็มแรกเนี่ยอยู่แค่ 56.6%

กลุ่มที่ต้องเร่งรัดให้มาฉีดวัคซีนคือกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ เพราะมีผู้ฉีดวัคซีนเข็มแรกอยู่ที่ 27.7% กลุ่มนี้หากไปฝากครรภ์ที่ไหนสามารถขอรับบริการการฉีดวัคซีนได้ที่ฝากครรภ์ โดยที่อายุครรภ์ที่เหมาะสมในการได้รับวัคซีนก็คืออายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์

ส่วนปัญหาผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว ไม่มีในระบบหมอพร้อมหรือไม่พบประวัติการฉีดวัคซีน ขอให้แจ้งจุดที่ไปรับบริการฉีดวัคซีนให้ลงข้อมูลหรือแก้ไขข้อมูลให้ได้ถูกต้องทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์ในภายภาคหน้ หากต้องแสดงผลการฉีดวัคซีนเมื่อไปใช้บริการในสถานที่ต่างๆ

• ศบค. สรุปยอด นทท.เดินทางเข้าไทย 16 วัน รวม 58,870 ราย พบติดโควิดในอัตราร้อยละ 0.13

ความคืบหน้าผลการเปิดประเทศว่า ข้อมูล ณ วันที่ 16 พ.ย. มีผู้ที่เข้ามาในประเทศทั้งหมด 3,931 ราย เป็นการเดินทางผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 2,896 ราย, สนามบินดอนเมือง 9 ราย, สนามบินภูเก็ต 938 ราย และสนามบินสมุย 88 ราย
– กลุ่ม Test & Go จำนวน 3,290 ราย ตรวจพบผู้ติดโควิด 6 ราย สะสม 37 ราย
– กลุ่ม Sandbox จำนวน 494 ราย ไม่พบผู้ติดโควิดเพิ่ม ยอดสะสมเดิม 21 ราย
– กลุ่มต้องกักกัน จำนวน 147 ราย ตรวจพบผู้ติดโควิด 3 ราย สะสม 16 ราย

พญ. สุมณี กล่าวว่า ยอดสะสมผู้เดินทางเข้าประเทศไทยแต่วันที่ 1-16 พ.ย. รวมจำนวน 58,870 ราย พบผู้ติดเชื้อที่รวม 9 ราย คิดเป็นผู้ติดเชื้อทั้งหมด 0.13% โดยประเทศที่เข้าไทยมากที่สุดยังเป็นสหรัฐอเมริกา, เยอรมัน, สหราชอาณาจักร, ญี่ปุ่น แล้วรัสเซีย

วันนี้ที่ประชุม ศบค.ได้มีการพูดคุยกันถึงข้อขัดข้องในการดำเนินมาตรการต่างๆ ส่วนใหญ่พบว่านักท่องเที่ยวสามารถปฏิบัติตามมาตรการได้เป็นอย่างดี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก้ไขปัญหาต่างๆเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว ทั้งเรื่องรถรับส่ง ประชุม ศบค.ชุดเล็กมีการเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการโรงแรมที่ยกระดับ SHA Plus ให้ยึดมั่นหลักการตามมาตรการนี้ถ้าพบว่าไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด อาจจะมีการถอนชื่อออกจากระบบได้ ซึ่งกรณีที่ถ้านักท่องเที่ยวไม่ได้ให้ความร่วมมือทั้งที่สถานประกอบการนั้นได้ยกระดับมา SHA Plus แล้ว ทางสถานประกอบการสามารถที่จะขอช่วยเหลือจากหน่วยงานในพื้นที่ทั้งหน่วยงานสาธารณสุขหรือว่ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาหรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนั้นได้

สรุปภาพรวมการสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย จังหวัดที่มีการติดเชื้อจังหวัดสูงสุดยังอยู่ในพื้นที่ จ.สงขลา, จ.นครศรีธรรมราช รวมถึงพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่างเชียงใหม่ และชลบุรี วันนี้อาจต้องมีการเคร่งครัดเรื่องมาตรการเพื่อลดการติดเชื้อลงไปได้มากขึ้น