ราชทัณฑ์รับพบคลัสเตอร์ใหญ่ที่ลำปาง ผู้ต้องขังติดโอไมครอน 700 ราย เร่งตรวจเชิงรุกทั้งหมด 1,080 ราย พร้อมจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ให้ผู้ติดเชื้อยืนยันดูแลผู้ต้องขังทุกรายอย่างเท่าเทียมกัน
วันที่ 15 ก.พ. 2565 นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยวานนี้ว่า นายวรพงษ์ น้อยสุขเสริม ผู้อำนวยการทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปาง รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปางว่า มีผู้ต้องขังติดเชื้อกว่า 700 ราย จากการตรวจสอบพบว่าเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 65 มีผู้ต้องขังชายอายุ 32 ปี ป่วยไข้ ไอ มีน้ำมูก วัดอุณหภูมิร่างกายได้ 38.8 องศาฯ จึงได้ดำเนินการตรวจโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ผลเป็นบวกติดเชื้อโควิด-19 และได้ตรวจผู้ต้องขังใกล้ชิดจึงพบการแพร่ระบาดขึ้น
นายวรพงษ์ รายงานว่า ทีมแพทย์และคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดลำปางได้เข้าตรวจเชิงรุกผู้ต้องขังทั้งหมด 1,080 รายพร้อมจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ผู้ตรวจพบเชื้อโควิด-19 โดยทัณฑสถานได้รับการสนับสนุนเครื่องเอกซ์เรย์พระราชทานแบบเคลื่อนที่ (Portable X ray Digital) นำไปเอกซเรย์เพื่อคัดกรองผู้ต้องขังป่วยทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา และยังไม่พบผู้ต้องขังที่ปอดมีปัญหาจากการติดเชื้อแต่อย่างใด
คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลำปางสันนิษฐานว่า เชื้อโควิด-19 ที่ระบาดภายในทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปาง เบื้องต้นน่าจะเป็นการปนเปื้อนมากับสิ่งของที่เข้าภายในทัณฑสถานฯ และคาดว่าน่าจะเป็นสายพันธุ์โอไมครอนที่สามารถแพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็ว
ปัจจุบัน ทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปางเป็นเรือนจำแดนเดียวพื้นที่ 9 ไร่ ได้ดำเนินการตามมาตรการการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัด และได้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 แก่ผู้ต้องขังทุกคนเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา ยืนยันพร้อมดูแลผู้ต้องขังทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อมิให้มีการสูญเสียเกิดขึ้น
ที่มา : https://www.facebook.com/prthaidoc