‘อนุทิน’ เปิดศูนย์การแพทย์บางรัก One Stop Service ให้บริการด้านสุขภาพทางเพศ ย้ำสถานการณ์โควิดติดเชื้อมากแต่ไม่รุนแรง พร้อมยืนยันไม่ได้ยกเลิกหรือให้โควิด-19 ออกจาก UCEP หากฉุกเฉินอาการหนักยังรักษาฟรีทุกที่
วันที่ 17 ก.พ. 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค คณะผู้บริหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน ร่วมเปิดอาคารศูนย์การแพทย์บางรัก เพื่อเป็นที่ทำการแห่งใหม่ภายใต้แนวคิด 90 ปี บางรัก Better Services Better Health
นายอนุทิน กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ที่พบโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 ในสัดส่วนที่มากขึ้นว่า ระบบการเฝ้าระวัง เป็นการเฝ้าระวังทุกสายพันธุ์ป้องกันตัวเองสูงสุด เราก็พยายามควบคุมทุกอย่าง ส่วนใหญ่เชื้อระบาดอยู่ใน กทม. และเป็นการติดเชื้อในครอบครัว แต่ยังถือว่าโอไมครอนไม่ได้ทำให้ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงเหมือนที่ผ่านมา
ขอให้ทุกคนไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้มากที่สุดก็จะช่วยประคับประคองได้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็ก วันนี้มีผู้ป่วยอาการหนักและเสียชีวิตยังอยู่ในสถานการณ์ควบคุมได้ มีการเช็กกันตลอดเพราะไม่ให้เกิดการเสียชีวิต กรมควบคุมโรครายงานว่าผู้เสียชีวิตร้อยละ 90 ไม่ฉีดวัคซีน และเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง ตอนนี้วัคซีนร้อยล้านโดสแล้ว ทุกชนิดได้มาตรฐานและรับรองโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ที่มีความน่าเชื่อถืออยู่แล้ว เราจึงอยากขอให้คนออกมาฉีดวัคซีนกันเยอะๆ ส่วนคลัสเตอร์โรงเรียนที่เพิ่มขึ้นจะกระทบต่อจำนวนเตียงหรือไม่ ตอนนี้พึ่งเปิดเรียนและฉีดวัคซีนสำหรับเด็กไปเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ และจะอัดเข้าไปโรงเรียนเมื่อวัคซีนกระจายได้ฉีดเต็มที่ก็จะเกิดภูมิคุ้มกันในตัวเด็ก ต้องให้เวลาในการสร้างภูมิคุ้มกัน
เมื่อถามถึงการปลดโรคโควิด-19 ออกจากบริการเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต หรือ Universal Coverage for Emergency Patients ; UCEP ทำให้เกิดความกังวล
รมว.สาธารณสุข ชี้แจงว่า ไม่ได้ยกเลิกหรือให้โควิด-19 ออกจาก UCEP แต่เป็นการปรับปรุง-จัดระบบ-ปรับวิธีการให้สัมพันธ์กับโรค-อาการของผู้ป่วย และสิ่งที่จำเป็นต้องทำ คือ การถอดโควิด-19 ออกจากการเป็นโรคฉุกเฉิน ไทยอยู่กับโรคมา 2 ปีกว่า เราไม่ได้มีผู้ป่วยโควิด-19 อย่างเดียว แต่เรามีผู้ป่วยโรคอื่นที่ต้องใช้บริการทางการแพทย์ฉุกเฉินด้วยเหมือนกัน ถ้าบอกว่าป่วยโควิด-19 มาสามารถแซงคิวโรคอื่นได้ แบบนี้ระบบสาธารณสุขจะรวน ต้องทำความเข้าใจกันว่า ถ้าป่วยโควิด-19 แล้วมีอาการรุนแรงให้เข้ารักษาที่ไหนก็ได้เหมือนเดิม ยืนยันว่า ไม่ได้ยกเลิกเพราะถ้ามีอาการฉุกเฉินตามที่กำหนดไว้ เช่น หายใจไม่ได้ เหนื่อยหอบ ไอรุนแรงที่มีการกำหนดไว้ ยังเข้ารับการรักษาที่ไหนก็ได้เหมือนเดิม ให้การดูแลเหมือนเดิม และได้มีการกำหนดเป็น UCEP PLUS ในการดูแลด้วย ส่วนผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการหรือสีเขียว ให้รักษาแบบกักตัวอยู่บ้าน Home Isolation เพื่อให้มีเตียงสำหรับผู้ป่วยหนัก เราต้องบริหารทรัพยากร เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
- ศูนย์การแพทย์บางรัก One stop service ด้านสุขภาพทางเพศ
นายอนุทิน กล่าวว่า โรงพยาบาลบางรัก เป็นสถานพยาบาลเฉพาะทางโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 90 ปี วันนี้กรมควบคุมโรคได้ปรับปรุงและเปิดเป็น “ศูนย์การแพทย์บางรัก” ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพทางเพศแบบ One stop service ให้บริการครอบคลุมทั้งการตรวจคัดกรอง ให้คำปรึกษา รักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคผิวหนัง และฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี เพื่อเป็นการเฝ้าระวังและควบคุมโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของประเทศ และให้ประชาชนได้เข้าถึงบริการด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มีคุณภาพ และมาตรฐาน
ทั้งนี้ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เป็นโรคที่ต้องเฝ้าระวังภายใต้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตและพฤติกรรมประชาชน ข้อมูลล่าสุดปี 2563 พบอัตราป่วยมีแนวโน้มสูงขึ้นถึง 33.6 ต่อแสนคน โดยเฉพาะ 5 โรคหลัก ได้แก่ ซิฟิลิส หนองใน หนองในเทียม แผลริมอ่อน กามโรคของต่อมและท่อน้ำเหลือง ซึ่งในเยาวชนอายุ 15 – 24 ปี มีอัตราป่วยโรคซิฟิลิสค่อนข้างสูง จากปี 2558 อัตราป่วย 11.0 ต่อแสนคน ในปี 2563 เพิ่มเป็น 50.4 ต่อแสนคน ส่วนโรคหนองใน ปี 2563 มีอัตราป่วย 58.8 ต่อแสนคน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีเป้าหมายที่จะยุติปัญหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ภายในปี 2573 โดยลดอัตราป่วยโรคหนองในไม่เกิน 3 ต่อแสนคน และลดอัตราป่วยโรคซิฟิลิสรายใหม่ไม่เกิน 1 ต่อแสนคน