SHARE

คัดลอกแล้ว

‘ตรวจแค่ไหนก็เจอแค่นั้น’ แพทย์จุฬาฯ ชี้ไทยติดโควิด-19 พีคสุดอาจถึง 8.5 หมื่นคนต่อวัน ย้ำธรรมชาติการระบาดของทั่วโลกที่มีการวิเคราะห์พบว่าจำนวนติดเชื้อระลอกโอไมครอนสูงกว่าเดลตาราว 3.65 เท่า

วันที่ 24 ก.พ. 2565 ข้อมูลจากเฟซบุ๊กของ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระบุว่า 23,557 ATK 22,240 รวม 45,797สูงสุดเท่าที่เคยระบาดมา อัตราการตรวจพบผลบวก 27.82% (เดิม 20.9%) หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป ปอดอักเสบเพิ่มขึ้นจาก 728 คน เป็น 905 คน เพิ่มขึ้น 24.31% ใส่ท่อช่วยหายใจเพิ่มจาก 163 คน เป็น 240 คน เพิ่มขึ้น 47.23% กรุงเทพฯ 3,266 (เดิม 3,165) อัตราการตรวจพบผลบวก 39.14% (เดิม 53.11%) นนทบุรี 875 (เดิม 724) อัตราการตรวจพบผลบวก ไม่มีรายงาน

รศ.นพ.ธีระ ระบุว่า ทะลุ 429 ล้านแล้ว เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มสูงถึง 1,750,778 คน ตายเพิ่ม 9,939 คน รวมแล้วติดไปรวม 429,745,703 คน เสียชีวิตรวม 5,935,053 คน 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ เยอรมัน เกาหลีใต้ รัสเซีย บราซิล และตุรกี

จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ/ใต้ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ 97.46 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 97.22 ล่าสุดจำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปยุโรปนั้นคิดเป็นร้อยละ 49.95 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 34.51 เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 8 ใน 10 อันดับแรก และ 16 ใน 20 อันดับแรกของโลก

สถานการณ์ไทยยังเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง ระบาดรุนแรง กระจายไปทั่ว สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่านโยบายและมาตรการควบคุมโรคนั้นยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ… ตัวเลขติดเชื้อยืนยันในแต่ละวันนั้นไม่ได้สะท้อนสถานการณ์จริง เพราะคนจำนวนมากมายที่ไม่ได้เข้าถึงการตรวจ RT-PCR แต่ตรวจด้วย ATK หากรวมรายงานจำนวน ATK ที่เห็นในเว็บของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องจะพบว่า จำนวนติดเชื้อรวมในแต่ละวันทะลุไปเกือบ 2 เท่าของระลอกเดลตา

อย่างไรก็ตาม จำนวนติดเชื้อในสถานการณ์จริงจะมีมากกว่านั้น เพราะต้องมีการตรวจ ATK ที่ไม่ได้รายงานเข้าระบบ จำนวนติดเชื้อจริงจึงน่าจะมากกว่าที่เห็น โดยที่ยังไม่รวมถึงคนที่ไม่สามารถเข้าถึงการตรวจได้ เพราะมีปัญหาเศรษฐานะหรืออื่นๆ

ทั้งนี้ จากธรรมชาติการระบาดของทั่วโลกที่ได้เคยทบทวนและวิเคราะห์จะพบว่า จำนวนติดเชื้อสูงสุดต่อวันในระลอกโอไมครอน (Omicron) จะสูงกว่าเดลตาราว 3.65 เท่า

นั่นคือ ไทยเราเคยมีรายงานติดเชื้อ 23,418 คน ณ 13 สิงหาคม 2564 จึงคาดว่าถ้าเราเป็นเหมือนค่ามัธยฐานของประเทศอื่นที่ผ่านพีคโอไมครอนมาแล้วการติดเชื้อสูงสุดต่อวันอาจอยู่ราว 85,476 คน

อย่างไรก็ตามข้อจำกัดในการเข้าถึงบริการการตรวจทั้ง RT-PCR และ ATK ในประเทศย่อมส่งผลโดยตรงต่อจำนวนติดเชื้อที่จะตรวจพบ พูดง่ายๆ สั้นๆ ว่า ตรวจแค่ไหนก็เจอแค่นั้น หากตรวจน้อยตัวเลขก็ย่อมสวยงาม เราจึงเห็นประเทศต่างๆ ที่ระบาดมาก แต่ใส่ใจในสวัสดิภาพของทุกคนในสังคมจึงตะลุยตรวจ เพื่อให้คนได้ทราบสถานะสุขภาพของตน และปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ป้องกันตนเองและคนรอบข้างได้
นี่คือหัวใจสำคัญที่ย้ำตลอดมาว่า ระบบการตรวจคัดกรองโรคนั้นจำเป็นอย่างยิ่งในการรับมือการระบาดหนัก ต้องมีศักยภาพการตรวจมาก ไม่เสียค่าใช้จ่าย เข้าถึงได้ง่ายโดยทุกคน โดยไม่ติดกฎเกณฑ์

บทเรียนตลอดปีก่อนมาจนถึงปัจจุบัน ชี้ให้ประชาชนทุกคนในสังคมเห็นชัดเจนว่า นโยบายและมาตรการด้านสาธารณสุข การควบคุมป้องกันโรค การตรวจคัดกรองโรค รวมถึงวัคซีน นั้นเป็นเช่นไร และทำให้เราใช้ชีวิตท่ามกลางความปลอดภัยหรือเสี่ยงมากขึ้น

จากบทเรียนที่เราเห็นได้จากประเทศต่างๆ ทั่วโลก นโยบายสาธารณสุขที่ดี มีประสิทธิภาพ ย่อมนำพาไปสู่การมีสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนในสังคม ไม่เกิดความสูญเสียมากมาย ทั้งในเรื่องความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เจ็บป่วย เสียชีวิต รวมถึงจะไม่เห็นการรอคิวตรวจข้ามคืน การติดค้างอยู่บนท้องถนน การทำอัตวินิบาตกรรม หรืออื่นๆ

สำหรับประเทศที่ระบาดมาก รวมถึงไทยเรา การป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด เป็นกิจวัตรเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง
ใส่หน้ากากเสมอ เว้นระยะห่างจากคนอื่น พบปะคนเท่าที่จำเป็น ใช้เวลาสั้นๆ เลี่ยงการกินดื่มหรือแชร์ของกินของใช้ร่วมกับผู้อื่น

หากไม่สบาย แม้เล็กน้อย ก็ควรแจ้งคนใกล้ชิดในครอบครัวและในที่ทำงาน หยุดเรียนหยุดงาน รีบไปตรวจรักษาให้หายดีเสียก่อน เป็นความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม ไม่ติดเชื้อย่อมดีกว่า เพราะโควิด…ติด…ไม่ใช่แค่คุณ และจะมีโอกาสเกิดปัญหา Long COVID ระยะยาว ขอให้ช่วยเหลือแบ่งปันกันตามกำลัง สู้ไปด้วยกัน และปลอดภัยไปด้วยกัน เปิดโหมด survival กันนะครับ…มั่นใจว่าคนไทยเราทำได้

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า