SHARE

คัดลอกแล้ว

นายกฯ สั่งเตรียมมาตรการรองรับการเดินทาง หลังวันหยุดสิ้นลง แนะประชาชนสังเกตตนเอง 7-10 วันหลังกลับเข้ามาทำงาน ขณะที่แพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แนะทุกโรงพยาบาลเตรียมพร้อมรับมือคลัสเตอร์ใหม่หลังสงกรานต์

วันที่ 16 เม.ย. 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทั้งตำรวจ ทหารและพลเรือนที่ข่วยกันดูแลประชาชนรวมถึงผู้ประกอบการ ประชาชนที่ให้ความร่วมมือปฎิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างรัดกุมในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ซึ่งจากนี้ขอทุกหน่วยงานช่วยกันยังต้องช่วยกันจัดเจ้าหน้าที่ดูแลประชาชนจำนวนมาก ที่จะเริ่มทยอยการเดินทางกลับเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ หลังสิ้นสุดวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ด้วย

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี มอบหมายกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมรองรับหากเกิดคลัสเตอร์โควิด -19 หลังสงกรานต์ ซึ่งสปสช. เพิ่มคู่สายด่วนรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ covid ในช่วงหลังสงกรานต์ ขณะเดียวกัน ก็ขอให้ประชาชนคอยสังเกตอาการหลังกลับจากเทศกาลสงกรานต์ 7 – 10 วัน หากมีอาการ เช่น ไอ มีน้ำมูก ไข้สูง 37.5 องศาเซลเชียส ควรรีบพบแพทย์และแจ้งประวัติการเดินทางและหากพบว่ามีอาการ หรือมีความเสี่ยงให้ตรวจด้วย ATK ทันที

  • เตรียมรับมือคลัสเตอร์สงกรานต์

รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า สถิติผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ช่วงสงกรานต์ยังทรงแบบขึ้นเล็กน้อย ไม่ต่างจากการเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุในช่วงเวลาเดียวกัน ที่น่าหวาดเสียวหน่อยคือ จำนวนผู้ป่วยอาการหนักและผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจที่ลดลงแล้วกลับขึ้นไปใกล้เคียงช่วงก่อนเทศกาล โรงพยาบาลใหญ่หลายแห่งในหัวเมืองกำลังวิ่งวุ่นผันศักยภาพการดูแลผู้ป่วยทั่วไปมาดูแลผู้ป่วยโควิดอาการหนักที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้น เกือบทั้งหมดยังเป็นกลุ่มเปราะบางที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือได้ไม่ครบ สัปดาห์หน้าคงเริ่มเห็นคลื่นกระเพื่อมว่าจะเล็กหรือใหญ่กันแน่

ผ่านมาแล้วสำหรับวันผู้สูงอายุแห่งชาติ วันครอบครัว จนเข้าสู่วันนี้ “วันเถลิงศก” ปีนี้มีการผ่อนคลายให้ผู้คนเฉลิมฉลองตามสมควร ยังมีการฝ่าฝืนบ้างแต่ในภาพรวมพอจะเอาอยู่ ได้โปรดช่วยกันเซฟผู้สูงอายุ คนท้อง และเด็กต่ำกว่าห้าขวบ ให้รอดพ้นจากโควิดได้มากที่สุดกันด้วยเถิด

เมื่อพ้นจากเทศกาลสงกรานต์แล้ว เป็นช่วงเข้าสู่การเตรียมพร้อมเปิดเทอมในกลางเดือนหน้า หนึ่งในมาตรการรองรับคือการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นครั้งที่หนึ่ง (เข็มสาม) ให้กับเด็กอายุ 12-17 ปี หลังจากผ่านเข็มสองมาแล้วกว่าสามเดือน อาจจะมีผู้ปกครองบางคนกังวลเรื่องภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบแทรกซ้อน ข้อมูลจากคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อแห่งอเมริกา (US CDC) ได้ติดตามผลการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์เข็มสามในวัยรุ่นจำนวน 2.8 ล้านคน ระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2564 ถึง 20 กุมภาพันธ์ 2565 พบการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบแทรกซ้อนรวม 32 ราย ทั้งหมดเกิดในเพศชาย โดยมี 27 รายต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แต่ทุกรายปลอดภัยดี ทั้งนี้เมื่อคิดเป็นสัดส่วนการเกิดความผิดปกตินี้ต่อผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนทั้งหมดในช่วงอายุ 12-17 ปีคือ 11.4 รายในหนึ่งล้าน ซึ่งลดลงกว่าเดิม 6-10 เท่าเมื่อเทียบกับการฉีดในเข็มที่สอง ซึ่งพบ 70.7 รายในหนึ่งล้านสำหรับอายุ 12-15 ปี และ 105.9 รายในหนึ่งล้านสำหรับอายุ 16-17 ปี

สำหรับผลข้างเคียงอื่นๆ ไม่แตกต่างกันระหว่างเข็มสองกับเข็มสาม เห็นอย่างนี้แล้วผู้ปกครองที่ยังลังเลรีบเปลี่ยนใจกันได้แล้ว https://www.cdc.gov/mmwr/volumes/71/wr/pdfs/mm7109e2-H.pdf

 

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=4664310307007949&id=100002870789106

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า