SHARE

คัดลอกแล้ว

วันที่ 1 ม.ค. 2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 279 คน ยอดผู้ป่วยสะสมล่าสุด อยู่ที่ 7,163 คน มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ 2 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 63 ราย มีผู้ป่วยรักษาตัวหายกลับบ้านเพิ่ม 33 คน รวมยอดผู้ป่วยรักษาตัวหายกลับบ้านได้แล้ว ที่ 4,273 คน มีผู้ป่วยที่ยังรักษาตัวในโรงพยาบาล 2,583 คน

รายละเอียดผู้เสียชีวิต  2 ราย ได้แก้ชายอายุ 44 ปี เป็นชาว กทม. ติดหลังไปร้านกึ่งบาร์ใน กทม. ใส่ท่อช่วยหายใจ (30 ธ.ค.) รุ่งขึ้นอาการไม่ดีขึ้นและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2563 เดินทางไปร้านอาหารกึ่งบาร์ในกทม. หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม มีไข้ เหนื่อยหอบ และวันที่ 30 ธันวาคม รู้สึกเหนื่อยมากขึ้นจึงไปตรวจที่คลินิกโรคไข้หวัด(ARI Clinic) ที่ รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ ด้วยอาการหายใจเหนื่อย ออกซิเจนในเลือดลดลงเหลือร้อยละ 80 แพทย์ส่งต่อไปห้องไอซียู(ICU) เพื่อใส่ท่อช่วยหายใจ แต่เนื่องด้วยน้ำหนักร่างกายมากจึงต้องใช้เวลานาน ต่อมาในเวลา 22.00 น. ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ต่อมาเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม อาการไม่ดีขึ้น ระบบหายใจล้มเหลว จึงส่งต่อไปยัง รพ.จุฬาลงกรณ์ และเมื่อเวลา 15.00 น. ผู้ป่วยเสียชีวิตลง ทั้งนี้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเป็นคนในครอบครัว 7 รายและเจ้าหน้าที่พยาบาล 6 ราย

ชาย 70 ปี ที่แม่สอด ลอบเข้าไทยเดือน พ.ย.63 พบเชื้อต้น ธ.ค.63 เข้ารับการรักษาจนไม่พบเชี้อ แต่มีโรคประจำตัว โรคหลอดเลือดสมอง นอนติดเตียง ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนและเกิดภาวะปอดอักเสบรุนแรง เสียชีวิต

สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ในประเทศ ดังนี้

1.กลุ่มผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังและบริการ 257 ราย ได้แก่ เชื่อมโยงจ.สมุทรสาคร 3 ราย พบใน กทม. 2 ราย นครศรีธรรมราช 1 ราย เชื่อมโยงจ.ระยอง 2 ราย พบใน กทม.และลำพูน เชื่อมโยงจ.ชลบุรี 1 ราย พบในสุรินทร์ เป็นชายอายุ 60 ปี มีประวัติสถานบันเทิง ชุมชน อาชีพเสี่ยง 16 ราย พบใน กทม. 11 ราย ปทุมธานี 2 ราย นครปฐม สมุทรสาครและอุบลราชธานี จังหวัดละ 1 ราย และอยู่ระหว่างสอบสวน 235 ราย พบใน กทม.6 ราย สมุทรสาคร 89 ราย ชลบุรี 51 ราย ระยอง 37 ราย จันทบุรี 29 ราย สมุทรปราการ 13 ราย ตราด 7 ราย ฉะเชิงเทรา 1 รายและสระแก้ว 2 ราย

2.กลุ่มแรงงานต่างด้าวจากการคัดกรองเชิงรุก 16 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า หากจำแนกตามแผนที่ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อ รวม 53 ราย มีจังหวัดใหม่ 2 จังหวัด คือ ลำพูนและสระแก้ว เนื่องจากเป็นโรคระบาดจะเห็นได้ว่าภายในครึ่งเดือนกระจายไปเร็วมาก จาก 6 เป็น 53 จังหวัด ทั้งนี้ผู้ป่วยสะสมในระลอกใหม่ตั้งแต่ 50 รายขึ้นไป มี 7 จังหวัด คือ สมุทรสาคร 1,739 ราย ระยอง 316 ราย ชลบุรี 207 ราย กทม. 180 ราย นครปฐม 60 ราย สมุทรปราการ 57 รายและ นนทบุรี 50 ราย โดยตัวเลขต่าง ๆ ยืนยันเป็นทางการแต่อาจไม่เป็นปัจจุบัน และต้องขอขอบคุณจังหวัดที่ยังเป็นศูนย์ เป็นความร่วมมือที่ดีของประชาชน อย่างไรก็ตาม จะมีการอัพเดตข้อมูลเพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ตัดสินใจมาตรการควบคุมโรค และขอให้ประชาชนแต่ละจังหวัดสอบถามไปตามช่องทางต่าง ๆ เพื่อลดช่องว่างและกระชับเวลา

ทั้งนี้ในการประชุมศูนย์ปฏิบัติการสถานการณ์ฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีโรคโควิด-19(ศปค.สธ.)ที่มีปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)เป็นประธานเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ได้มีมติขอความร่วมมือกับ 9 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม สมุทรปราการ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี ชลบุรี และระยอง ในการดำเนินการมาตรการเข้ม ด้วยการปิดสถานบันเทิงทุกแห่ง ส่วนร้านอาหารให้จำหน่ายเฉพาะในรูปแบบนำกลับไปรับประทานที่บ้าน เนื่องจากเป็นแหล่งพบปะของคนจำนวนมาก จะทำให้แพร่และติดเชื้อได้ โดยมอบหมายให้นายแพทย์สาธารณสุข(นพ.สสจ.)ในจังหวัดนั้นๆไปสื่อสารกับจังหวัดให้เข้มมาตรการขึ้น

นอกจากนี้ ขอให้ทุกจังหวัดเฝ้าระวังเชิงรุกในกลุ่มผู้ที่เดินทางจากพื้นที่โควิด-19ระบาด เช่น สมุทรสาคร กรุงเทพ ปริมณฑล ระยอง และชลบุรี รวมถึง ให้มีการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในกลุ่มเสี่ยงต่างๆด้วย โดยเฉพาะจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปจำนวนมากในช่วงเทศกาลปีใหม่ และให้นายจ้างที่มีแรงงานต่างด้าวดูแลและกำชับให้งดเคลื่อนย้าย และให้อยู่กับที่ในที่พักให้มากที่สุด เพราะแนวโน้มของสถานการณ์ อย่าคิดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลงเร็ว หรือดีขึ้นในวันสองวัน อย่างนเอยตัวเลขจะเพิ่มขึ้นไปอีกใน 1-2 สัปดาห์ แต่จะเพิ่มขึ้นแบบตั้งชัน เอียงลาด หรือต่ำเตี้ยที่คนไทยเคยทำได้ในการระบาดรอบแรก ซึ่งถ้าทุกคนร่วมมมือช่วยกันปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคแบบ100% ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ เว้นระยะห่าง ไม่ไปในสถานที่ที่มีคนจำนวนมากแออัด เข้าใช้บริการให้สแกนไทยชนะ ก็จะทำให้ยอดผู้ติดเชื้อที่กำลังพุ่งขึ้นลดลงมา ซึ่งมาตรการต่างๆที่ทำร่วมกันตอนนี้จะส่งผลในช่วงกลางเดือนมกราคม

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า